Posted on

กาแฟอะมา ปางขอนกับ ‘ความลับ’ ที่ถูกเก็บซ้อนเอาไว้

“กาแฟอะมา ปางขอน” หากเอ่ยชื่อขึ้นมาคอกาแฟพันธุ์แท้คงรู้จักกันเป็นอย่างดี เพราะด้วยรสชาตินุ่มและกลิ่นที่หอมละมุน ทำให้กาแฟอะมาปางขอนกลายเป็นกาแฟขวัญใจของผู้คนทั่วไปไปโดยปริยาย แต่ จะมีใครรู้บ้าง ว่าในความเป็นจริงแล้ว กาแฟอะมา ปางขอน นั้นความลับที่แอบเก็บซ่อนไว้ ซึ่งความลับที่ว่านั้นจะเป็นอะไร ? แล้วมันจะสร้างความประหลาดใจให้คุณได้แค่ไหน เราไปติดตามเสาะหาความลับนี้พร้อมๆ กันเลยดีกว่า

Assorted Fruits on Person's Hand

ทุกการซื้อคือการช่วยเหลือชนเผ่าอาข่า 

อดีตชาวเผ่าอาข่าบ้านปางขอนนั้น นิยมปลูกฝิ่นกับทำไร่เลื่อนลอยจนทำให้เกิดเป็นปัญหาร้ายแรง จนกระทั่งมีการจัดตั้งโครงการรัฐวิสาหกิจชุมชนบ้านปางขอนขึ้นมา โดยให้นำกาแฟพันธ์อาราบิก้าแท้จากแอฟริกา เข้ามาให้ชาวอาข่าได้ทำการเพาะปลูก ซึ่งมีการควบคุมกระบวนการปลูกและคัดสรรค์อย่างพิถีพิถัน จากนักเกษตรประจำโครงการพัฒนาเกษตรพื้นที่สูงเขาปางขอน และด้วยเหตุนี้ทุกๆ การซื้อกาแฟอะมา ปางขอน จึงกลายเป็นอีกหนึ่งแรงสำคัญที่จะทำให้ชนเผ่าอาข่ามีรายได้นั่นเอง 

ภูมิอากาศที่เหมาะสมมากที่สุดในการปลูกกาแฟ

กาแฟอะมา ปางขอนนั้น ได้ปลูกอยู่บนยอดเขาที่สูงกว่าระดับน้ำทะเลถึง 1,280 เมตร จึงทำให้ต้นกาแฟไม่ได้รับสิ่งรบกวนและได้สัมผัสกับอากาศที่บริสุทธิ์ตลอดปี ส่งผลให้เมล็ดพันธุ์ที่ได้มานั้นมีคุณภาพในระดับสากลเลยทีเดียว  

“กาแฟอะมา ปางขอน” มีเพียงหนึ่งเจ้าเท่านั้น

สิ่งที่หลายๆ  คนสงสัยว่ากาแฟอะมา ปางขอนนั้นมีเจ้าเดียวหรือเปล่า ? เห็นมีหลายๆ แบรนด์บอกว่าตัวเองคือกาแฟปางขอน ซึ่งเราขอบอกเลยว่ากาแฟอะมา ปางขอนมีเจ้าเดียวเท่านั้น ชื่อจริงต้อง “กาแฟอะมา ปางขอน” 

Woman in Green Top Whispering to a Man in a Gray Tank Top

 เป็นอย่างไรกันบ้างกับความลับที่ “กาแฟอะมา ปางขอน” ได้เก็บซ้อนเอาไว้ ซึ่งเราเชื่อได้เลยว่าข้อมูลที่เราได้กล่าวไปนี้ จะช่วยทำให้คุณมองเห็นคุณค่าของกาแฟแบรนด์นี้เพิ่มมากยิ่งขึ้น และที่สำคัญกาแฟอะมา ปางขอนได้รับการรับรองมาตราฐาน GMP แจ้งจด อ.ย. (เลขที่ 50-2-04262-6-0004) ไปเป็นที่เรียบร้อย คุณจึงมั่นใจได้เลยว่า ทุกหยด ทุกถุงของกาแฟอะมา ปางขอน คือความใส่ใจของชาวอาข่าที่แท้จริง สอบถามรายละเอียด/สั่งซื้อสินค้า ได้ที่ FB: อะมา คอฟฟี่ ปางขอน

Posted on

ลบความคิดเดิมๆ ว่ากาแฟที่ดีต้องมาจากต่างประเทศ

หากคุณเป็นอีกคนหนึ่งที่คิดว่ากาแฟที่ดีจะต้องนำเข้าจากต่างประเทศ เราขอบอกเลยว่าคุณคิดผิด เพราะในความเป็นจริงแล้ว กาแฟที่ดีไม่จำเป็นต้องมาจากต่างประเทศเลยแม้แต่น้อย เพราะสภาพภูมิอากาศเมืองไทยของเราก็ไม่เป็นสองรองใคร จนทำให้เกิดกาแฟแบรนด์ “อะมา ปางขอน” ขึ้นมา ซึ่งบอกได้เลยว่าทั้งรสชาติและกลิ่นนั้น ต่างสร้างความประทับใจให้แก่ชาวต่างชาติและคนไทยไปเป็นที่เรียบร้อย และความเนื้อชั้นของกาแฟแบรนด์ไทยแท้แบรนด์นี้จะมีความน่าสนใจยังไงบ้าง เราไปติดตามพร้อมๆ กันเลย

กรรมวิธีการปลูกที่ใส่ใจทุกขั้นตอน 

การปลูกของกาแฟอะมา ปางขอนนั้น เป็นการปลูกแบบออแกร์นิคแท้ ไม่มีสารเคมีเจือปนใดๆ ทั้งสิ้น และที่สำคัญผู้ปลูกคือชนเผ่าอาข่า ที่ได้ผ่านการอบรมเรื่องการปลูกกาแฟมาอย่างเข้มงวด ดังนั้นเขาจึงรู้ดีว่าต้องเก็บเมล็ดในช่วงไหน ให้น้ำเท่าไหร่ เพื่อที่จะได้ผลกาแฟที่ดีที่สุดมามอบให้กับคุณ 

การคั่วเมล็ดกาแฟที่ดึงเอกลักษณ์ของรสชาติออกมาได้อย่างดีเยี่ยม

การคั่วกาแฟอะมา ปางขอนนั้น ได้ถูกคั่วโดยผู้เชี่ยวชาญเฉพาะทาง ส่งผลให้กาแฟอะมา ปางขอนมีกลิ่นที่หอมเย้ายวนใจ และรสชาติที่ดีอย่างถึงขีดสุด บอกได้เลยว่ารสชาติและกลิ่นนั้นไม่แพ้เมล็ดกาแฟของต่างประเทศอย่างแน่นอน 

ช่วยส่งเสริมการเกษตรให้แก่ชาวเผ่าอาข่า 

กาแฟอะมา ปางขอน ถือได้ว่าเป็นผลผลิตของชนเผ่าอาข่าอย่างสมบูรณ์ เพราะได้มีนักเกษตรประจำโครงการพัฒนาเกษตรพื้นที่สูงเขาปางขอน ได้เข้าไปให้ความรู้และสร้างอาชีพนี้ให้แก่ชาวอาข่าเพื่อที่พวกเขาจะได้มีรายได้นั่นเอง

 จากที่เรากล่าวไปข้างต้นคุณคงพอจะคิดภาพตามได้แล้วว่า “กาแฟอะมา ปางขอน” นั้นมีความพิเศษมากกว่ากาแฟแบบทั่วๆ ไป และที่สำคัญกาแฟอะมา ดอยปางขอนของเป็นอาราบิก้าแท้ 100% คุณจึงจะได้รับรสชาติที่หอมละมุนแต่ยังคงอัดแน่นด้วยความเข้มข้นอันเป็นเอกลักษณ์ โดยคุณสามารถสอบถามรายละเอียด/สั่งซื้อสินค้าได้ทาง FB: อะมา คอฟฟี่ ปางขอน “ให้การดื่มกาแฟของคุณ อบอุ่นทุกครั้งเหมือนได้ขึ้นเขา ไปกับกาแฟอะมา ปางขอน”

Posted on

คุณค่าที่คุณควรลอง ‘กาแฟอะมา’ กาแฟล้ำค่า จากปางขอน

หากคุณเป็นคอกาแฟแล้วล่ะก็คุณคงจะต้องเคยได้ยินความหอมของกาแฟภาคเหนือมาบ้างซึ่งก็คงจะเป็นใครไปไม่ได้เลยนอกจากกาแฟ ‘อะมา’ที่กำลังได้รับความนิยมอย่างถึงขีดสุดในขณะนี้เพราะไม่ว่าจะเป็นผู้ประกอบการร้านกาแฟหรือแม้แต่บุคคลทั่วไปต่างก็ต้องการกาแฟอะมาไปชงดื่มเพราะด้วยเอกลักษณ์ของรสชาติและความหายากของเมล็ดพันธุ์ทำให้กาแฟอะมากลายเป็นอีกหนึ่ง Item เด็ดที่เหล่าคอกาแฟต้องลองชิมดูสักครั้งในชีวิต

ความโดดเด่นของรสชาติที่อยากจะหาใครเหมือน

ความโดดเด่นของกาแฟอะมานั้นทำให้หลาย ๆคนกล่าวว่านี่คือสุดยอดกาแฟภาคเหนือของไทย โดยจุดเด่นของกาแฟอะมาคือความหอมละมุน กลมกล่อมแต่ยังคงเต็มด้วยความเข้มข้นของรสชาติแห่งกาแฟอาราบิก้าแท้ที่ยากจะหาใครเหมือน ทำให้กาแฟอะมาขึ้นแท่นกลายเป็นลูกรักของนักชิมกาแฟจากทั่วฟ้าเมืองไทยไปอย่างง่ายดายนั่นเอง

กรรมวิธีการปลูกและเก็บที่เหนือชั้น

เพราะผู้ที่ปลูกต้นกาแฟคือกลุ่มชนเผ่าอาข่า ทำให้การเก็บเกี่ยว การบำรุงดูแลมีความแตกต่างจากไปจากเดิม ซึ่งถือว่าเป็นเคล็ดลับเฉพาะชนเผ่าส่งผลให้ผลกาแฟที่ได้มานั้นมีรสชาติที่แตกต่างแต่ลงตัวอีกทั้งการคั่วเมล็ดกาแฟอะมา ถูกคั่วจากผู้เชี่ยวชาญทางด้านกาแฟโดยตรงทำให้กาแฟอะมามีกลิ่นหอมและเป็นกาแฟที่หลาย ๆคนอยากจะลองสัมผัสสักครั้งหนึ่งในชีวิต

ความภาคภูมิใจของชาวอาข่า

หากย้อนไปในอดีตบริเวณปางขอน จังหวัดเชียงรายนั้นเต็มไปด้วยพืชที่เป็นยาเสพติดและการเผาทำลายป่าไม้อยู่เป็นระยะ ๆ ชนเผ่าอาข่าที่อาศัยอยู่บริเวณนั้นไม่มีรายได้จนกระทั่งมีการจัดตั้งโครงการรัฐวิสาหกิจชุมชนบ้านปางขอนเข้าไปมอบเมล็ดกาแฟอาราบิก้าพร้อมทั้งสอนให้ชาวเผ่าอาข่าได้รู้จักปลูกและดูต้นกาแฟซึ่งนั่นก็ส่งผลให้ชนเผ่าอาข่าเริ่มมีรายได้และเริ่มปรับประยุกต์การดูแลต้นกาแฟให้ได้ตรงกับความต้องการโดยพวกเขากล่าวว่า ‘กาแฟอะมา’คือสิ่งที่พวกเขาภาคภูมิใจที่สุดในชีวิตเลยก็ว่าได้

Hidden Content

บรรจุภัณฑ์ที่ถูกคัดสรรค์มาเป็นอย่างดี

หากคุณกำลังคิดว่าบรรจุภัณฑ์ของทางกาแฟอะมาคงจะเหมือนทั่ว ๆ ไปขอบอกเลยว่าคุณคิดผิดเพราะอย่างที่ทราบกันดีว่าทุกขั้นตอนการผลิตกาแฟอะมานั่น ถูกบรรจงและตั้งใจซึ่งก็รวมไปถึงการเลือกบรรจุภัณฑ์ ที่เรารับประกันเลยว่าจะไม่มีอากาศเข้าไปแทรกซึมจนทำให้เมล็ดกาแฟนั่นเสียรสชาติอย่างแน่นอนเรียกได้ว่า ‘กาแฟอะมา’ กลายเป็นของดีที่ไม่ว่าใครได้มาเยี่ยมชมชนเผ่าอาข่าบนดอยปางขอน จังหวัดเชียงรายจะต้องมองหากาแฟอะมาติดไม้ติดมือกลับบ้านไปเพราะต่างติดใจในความหอมละมุนแต่ยังคงอัดแน่นไปด้วยความเข้มข้นของรสชาติอีกทั้งการซื้อกาแฟอะมายังเป็นอีกหนึ่งช่องทางที่จะช่วยให้เหล่าชนเผ่าอาข่าและเกษตรมีรายได้เข้ากระเป๋าอีกด้วยซึ่งนั่นก็ยิ่งตอกย้ำว่ากาแฟอะมามีดีมากกว่ารสชาติและคุณก็ไม่ควรพลาดที่จะต้องลองกาแฟอะมาสักครั้งหนึ่งในชีวิต

Posted on

‘อะมา’ กาแฟสายพันธุ์ไทย ที่ถูกปาก ต้องใจ ผู้คนไปทั่วโลก

หากกล่าวถึงกาแฟสายพันธุ์ไทยที่กำลังได้รับความนิยม คงจะเป็นกาแฟแบรนด์ไหนไปไม่ได้เลยนอกจาก ‘อะมา’ กาแฟ อาราบิก้าแท้ 100% จากดอยปางขอน จังหวัดเชียงราย ที่ได้กลายเป็นกาแฟที่ถูกพูดถึงมากที่สุดในยุคนี้ เพราะด้วยเอกลักษณ์ของรสชาติที่โดดเด่นและสตอรีของกรรมวิธีการผลิต ทำให้กาแฟอะมาก้าวขึ้นมาสู่แนวหน้าในวงการกาแฟได้อย่างสบาย ๆ


โดยในวันนี้เราจะพาคุณไปรู้จักกาแฟอาราบิก้าสายพันธุ์ไทยแท้กัน ว่ามันจะมีความพิเศษอย่างไร?
และทำไมถึงได้กลายเป็นที่ยอมรับของเหล่าคอกาแฟทั่วโลก

ความเป็นมาที่ยากจะหาใครเหมือน

เป็นอย่างที่ทราบกันดีว่ากาแฟอะมาถูกปลูกขึ้นที่เขาปางขอน จังหวัดเชียงราย ซึ่งในสมัยก่อนพื้นที่บริเวณนี้ มีการเผาทำลายป่าไม่เว้นแต่ละวัน อีกทั้งพื้นส่วนใหญ่ ก็ถูกปลูกฝิ่นและพืชผิดกฎหมายอีกหลายชนิด แต่แล้ว โครงการรัฐวิสาหกิจชุมชนบ้านปางขอน ก็ได้นำกาแฟพันธุ์อาราบิก้าแท้จากแอฟริกา ไปให้แก่ชาวอาข่าและชาวบ้านที่อยู่บริเวณนั้นได้ปลูก และด้วยภูมิอากาศที่ สูงเหนือน้ำทะเล 1,280 เมตร ทำให้เมล็ดกาแฟที่ได้มานั้น มีรสชาติดี หอม กลมกล่อม จนกลายเป็นสินค้ากาแฟอะมาที่หลาย ๆ คนพึ่งปรารถนานั่นเอง


รสชาติที่โดดเด่น จนทำให้หลาย ๆ คนหลงรัก อย่างที่กล่าวไปข้างต้นว่ากาแฟอะมามีความโดดเด่นในเรื่องรสชาติที่หอม ละมุนลิ้น แต่ แอบแฝงไปด้วยความเข้มข้น จนทำให้หลาย ๆ คนเกิดความประหลาดและประทับใจในรสชาติไปพร้อม ๆ กัน
ซึ่งนั่นก็ทำให้กระแสความนิยมของกาแฟอะมาเริ่มเกิดขึ้น เพราะจากปากผู้ที่ได้ลอง ต่างบอกเป็นเสียงเดียวกันว่า นี่คือสุดยอดของกาแฟสายพันธุ์ไทยอย่างแท้จริง

กาแฟอะมาเป็นกาแฟออร์แกนิค 100%

อีกหนึ่งจุดเด่นของกาแฟอะมาคือ เป็นกาแฟออร์แกนิค 100% ปลอดภัย ไม่มีสารอันตรายตกค้าง เพราะชาวอาข่าต่างทุ่มแรงทุ่มใจในการปลูกและดูแลต้นกาแฟโดยที่ไม่มีการใช้สารเคมีใด ๆ ทั้งสิ้น

ใส่ใจทุกจุดแม้กระทั่งบรรจุภัณฑ์


สำหรับใครที่กลัวว่าการสั่งซื้อกาแฟอะมาจะเกิดการรั่วซึมของอากาศ ทำให้กลิ่นและรสชาติของกาแฟเปลี่ยนไป คุณก็คงสบายใจได้เลย เพราะทางกาแฟอะมาได้บรรจุด้วยเครื่องสุญญากาศและใช้ถุงเกรดพรีเมี่ยม อีกทั้งยังมีวาล์วเดี่ยวในการระบายแก๊สต่าง ๆ ออกจากด้าน ทำให้กลิ่นและความสดใหม่ของเมล็ดกาแฟนั้น ยังคงสมบูรณ์เต็ม 100% อย่างแน่นอน

Hidden Content

ผ่านมาตรฐานสากล

เพราะเราไม่ได้เป็นที่ยอมรับแบบปากต่อปากเท่านั้น แต่กาแฟอะมายังได้รับมาตรฐาน GMP และจดทะเบียน อ.ย. เลขที่ 50-2-04262-6-0004 เป็นที่เรียบร้อย กาแฟอะมานั้นถือว่าเป็นอีกหนึ่งความภาคภูมิใจของชาวอาข่า บนดอยปางขอน
จังหวัดเชียงราย เป็นอย่างมาก เพราะพวกเขาได้หันมาปลูกต้นกาแฟ โดยที่ไม่ใช้สารเคมีใด ๆ ทั้งสิ้น
เพื่อให้ผลกาแฟที่ออกมานั้นมีคุณภาพและได้รสชาติที่ดีที่สุด

ทำให้ผู้ที่ได้รับประทานกาแฟอะมา ได้รับประโยชน์และคุณค่าจากกาแฟแบบเต็มๆ อีกทั้งการคั่วเมล็ดกาแฟอะมาก็ถูกคั่วโดยผู้เชี่ยวชาญทางด้านกาแฟโดยเฉพาะ ทำให้กาแฟอะมามีกลิ่นที่หอมยาวนานและกลายเป็นกาแฟที่ถูกกล่าวถึงมากที่สุดในปัจจุบันนั่นเอง

Posted on

ไปเที่ยวเหนือทั้งที อย่าพลาดของดีที่คุณต้องซื้อติดมือกลับมา

นักท่องเที่ยวทั้งไทยและต่างประเทศต่างพูดเป็นเสียงเดียวกันว่า ภาคเหนือของไทยเรานี้คือที่สุดไม่ว่าจะเป็นวิวตามทิวเขา อาหาร วัฒนธรรม อากาศ ผู้คน ฯลฯ เรียกได้ว่าทุกอย่างมันช่างลงตัวไปซะหมด ทำให้ในช่วงเทศกาลภาคเหนือจะเต็มไปด้วยนักท่องเที่ยวมากมาย แต่ คุณเคยคิดเล่น ๆ บ้างหรือไม่ ว่าไปภาคเหนือทั้งทีจะต้องซื้ออะไรติดไม้ติดมือกลับมาบ้าง ?


คำถามข้างต้นนี้ดูเหมือนจะง่าย แต่เอาเข้าจริง ๆ หลาย ๆคนก็ถึงกลับไปไม่เป็นกันเลยทีเดียว ซึ่งคุณก็ไม่ต้องเป็นกังวลไป เพราะในบทความนี้ เราได้ไปรวบรวมของดีที่คุณควรจะซื้อติดไม้ติดมือเมื่อไปเยือนภาคเหนือ แต่จะมีอะไรบ้างเราลองไปติดตามพร้อม ๆ กันเลย

1.ไส้อั่ว

ของที่ขึ้นชื่อเป็นอย่างมากอย่างไส้อั่ว คงจะกลายเป็นดั่งสัญลักษณ์ของทางภาคเหนือไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ซึ่งไม่ว่าใครที่ได้ไปเที่ยว ต่างก็ต้องซื้อติดไม้ ติดมือกลับบ้านกันคนละโลสองโล แต่ก็ไม่ใช่เรื่องน่าแปลกอะไร เพราะรสชาติของไส้อั่วเป็นที่รู้กันดีอยู่แล้วว่า อร่อย แต่ไส้อั่วของแต่ละจังหวัดจะมีรสชาติและส่วนผสมที่แตกต่างกันออกไป ซึ่งก็อยู่ที่คุณแล้วล่ะว่าชอบไส้อั่วของจังหวัดไหนเป็นพิเศษ

2.แคปหมู-น้ำพริกหนุ่ม

อีกหนึ่ง Item ที่ไม่ว่าใครจะมาภาคเหนือ ต่างก็ต้องซื้อกลับบ้านกันเป็นแถว นั่นก็คือแคปหมู-น้ำพริกหนุ่ม อาหารพื้นเมื่อของคนภาคเหนือ ที่ถูกใจ ถูกปากของผู้ทุกคนภาค ด้วยความกรอบของแคปหมูและความเผ็ดของน้ำพริกหนุ่ม มันช่างเข้ากันดี
ไปเหนือกี่ทีก็ต้องซื้อทุกทีอย่างแน่นอน

3.ผ้าทอ

ผ้าทอที่มีลวดลายเป็นเอกลักษณ์ของทางภาคเหนือ ทำให้เหล่านักท่องเที่ยวทั้งไทยและเทศต่างตบเท้าเข้ามาซื้อของฝากชิ้นนี้กันอย่าง ไม่ขาดสาย อาจจะเพราะด้วยลวดลายและความเบาสบายของผ้า ทำให้ผ้าทอของภาคเหนือการเป็นของขึ้นชื่อที่ทุกคนจะต้องซื้อกลับฝากคนที่บ้านอยู่เสมอ

Hidden Content

4.เมล็ดกาแฟ

ถ้าไม่ซื้อเมล็ดกาแฟจากทางภาคเหนือกลับบ้าน ก็เท่ากับว่าคุณไม่ได้ไปถึงภาคเหนือ
เพราะเมล็ดกาแฟของทางภาคเหนือเมืองไทยนั้น ขึ้นชื่อในเรื่องความหอม ความกลมกล่อม ที่ยากจะหากาแฟจากที่ไหนมาเหมือน ซึ่งชาวต่างชาติหลาย ๆคน ถึงกลับยอมซื้อน้ำหนักกระเป๋าเพิ่ม เพื่อขนเมล็ดกาแฟของไทยกลับกันเลยทีเดียว
ทั้ง 4 ของดีที่เรากล่าวไปเมื่อข้างต้น ล้วนแล้วแต่เป็นของขึ้นชื่อของทางภาคเหนืออย่างแท้จริง และยิ่งเป็นเมล็ดกาแฟด้วยแล้ว บอกได้คำเดียวว่าต้องซื้อ


เพราะภาคเหนือของไทยถือว่าเป็นทำเลทองในการปลูกต้นกาแฟเป็นอย่างมาก
โดยเฉพาะดอยปางขอน จังหวัดเชียงราย ที่มีความสูงเหนือน้ำทะเลถึง 1,280 เมตร
ทำให้ดอยแห่งนี้กลายเป็นพื้นที่ที่ชาวอาข่าได้ปลูกกาแฟสายพันธุ์อาราบิกก้าแท้ 100% ภายใต้ชื่อแบรนด์ว่า ‘อะมา’ ออกมาจำหน่าย


และแน่นอนว่าทั้งรสชาติและกลิ่นของกาแฟอะมานั้น ก็ไม่ทำให้ผิดหวัง ทั้งหอม ทั้งเข้มข้นและนุ่มนวล จนหลาย ๆ ต่างติดใจต้องซื้อติดมือกลับบ้านหรือถึงขนาดสั่งซื้อกาแฟอะมาผ่านทาง
Facebook กันเลยทีเดียว อีกทั้งกาแฟอะมายังเป็นกาแฟออร์แกนิคอีกด้วย

Posted on

สักครั้งในชีวิตต้องลอง กับกาแฟ ‘อะมา’ ที่จะนำพาสุขภาพดีมาให้คุณ

เมล็ดกาแฟในปัจจุบันนี้มีหลากหลายยี่ห้อ แต่ คุณเคยสงสัยหรือไม่ว่าทำไมกาแฟ ‘อะมา’ ถึงได้กลายเป็นกาแฟที่ครองตลาดในยุคปัจจุบันได้อย่างไม่น่าเชื่อ ทั้ง ๆ ที่กาแฟอะมาเป็นกาแฟสายพันธุ์ไทยแท้ แต่กลับได้รับความนิยมไม่แพ้กาแฟสายพันธุ์ที่มาจากต่างประเทศเลยแม้แต่นิดเดียว และดูทีท่าว่าความนิยมของกาแฟอะมาจะทวีคูนเพิ่มขึ้นทุก ๆ วัน

ดังนั้นเราไม่รอช้าไปหาคำตอบกันดีกว่าทำไมกาแฟอะมาถึงได้ตอบโจทย์ของผู้คนยุคใหม่และน่าลิ้มลองสักครั้งหนึ่งในชีวิต

รสชาติที่เป็นเอกลักษณ์จนยากที่จะลืมเลือน

เอกลักษณ์เด่นที่ไม่มีใครสามารถเลียนแบบกาแฟอะมาได้ นั่นก็คือรสชาติ ที่เต็มไปด้วยความหอมของเมล็ดกาแฟคั่ว รสสัมผัสนุ่ม กลมกล่อม ละมุนลิ้น แต่ก็แอบแฝงไปด้วยความเข้มข้นที่ยากจะอธิบายออกมา ทำให้ผู้ที่ได้ทดลองชิมกาแฟ
อะมาต่างติดใจกันแบบสุด ๆ ซึ่งแน่นอนว่าจุดนี้นี่เองที่ทำให้กาแฟอะมากลายเป็นที่นิยมในปัจจุบัน

การคัดสรรกาแฟที่ยากจะหาใครเหมือน

เราคงพูดได้อย่างเต็มปาก เต็มคำ ว่าการคัดสรรเมล็ดพันธุ์กาแฟอะมานั่น มีความละเอียดเป็นอย่างมาก เพราะจะเลือกเก็บเมล็ดกาแฟที่แก่ที่สุด และนำมากะเทาะเปลือกภายใน 24 ชั่วโมง เพื่อจะได้รสชาติที่เป็นเอกลักษณ์อย่างแท้จริง

กระบวนการการผลิตที่เป็นออร์แกนิค

กลุ่มเกษตรกรผู้ผลิตกาแฟอะมานั้น ส่วนมาจะเป็นกลุ่มคนชนเผ่าอาข่า ที่ไม่ถนัดในการใช้สารเคมีต่าง ๆ ทำให้การปลูกต้นกาแฟ ดำเนินไปด้วยความที่เป็นออร์แกนิคอย่างเต็มตัว

ซึ่งถ้าใครกลัวว่าจะมีสารพิษตกค้างในเมล็ดกาแฟหรือเปล่าคุณก็คงสบายใจได้เลย เพราะว่าเมล็ดกาแฟของอะมานั้นปลอดภัย แถมยังผ่านมาตรฐาน GMP อีกด้วย

Hidden Content

ความสุขที่มากกว่าการดื่มกาแฟ

อีกหนึ่งความสำคัญของการดื่มกาแฟอะมาคือ ทุกครั้งที่คุณซื้อสินค้าไป นั่นถือว่าเป็นอีกหนึ่งช่องที่จะทำให้เหล่าเกษตรกรชาวอาข่ามีรายได้ ซึ่งเดิมชนเผ่าอาข่าได้มีการปลูกพืชผิดกฎหมายบริเวณบ้านปางขอน จนกระทั่งมีการจัดตั้งโครงการรัฐวิสาหกิจชุมชนบ้านปางขอน เข้าไปให้เมล็ดกาแฟอาราบิก้าแก่ชาวบ้าน และฝึกสอนการดูแล การเก็บ
การแปรรูปจนกลายมาเป็นกาแฟอะมา คุณภาพดีที่เราเห็นกันอยู่ทุกวันนี้นั่นเอง

เพราะกาแฟอะมาถูกคัดสรรจากเมล็ดพันธุ์กาแฟชั้นดีและผ่านกรรมวิธีออร์แกนิค ทำให้ผู้ที่ได้ดื่มกาแฟอะมาเข้าไป ได้รับรสสัมผัสที่หอมละมุน นุ่มลิ้นแต่ยังเต็มไปด้วยความเข้มข้นที่ยากจะหาใครเหมือน และที่สำคัญการดื่มกาแฟอะมาจะช่วยให้ร่างกายของคุณได้รับสารประโยชน์จากเมล็ดกาแฟอาราบิก้าแท้ 100% ด้วยเหตุผลทั้งหมดทั้งมวลนี้ จึงส่งผลให้กาแฟอะมา กลายเป็นกาแฟสัญชาติไทยที่ครองใจของคอกาแฟผู้คนทั่วประเทศที่รักสุขภาพ อีกทั้งกาแฟอะมายังสามารถตีโจทย์สร้างกำไรให้แก่ผู้ประกอบการร้านกาแฟได้เป็นอย่างดีอีกด้วย ซึ่งถ้าคุณอยากจะสัมผัสรถชาติแห่งความหอมอร่อยของกาแฟสัญชาติไทยอย่างกาแฟอะมาแล้วนั้น สามารถติดต่อ-สั่งซื้อสินค้าได้ทาง Inbox Facebook : อะมา คอฟฟี่ ปางขอน

Posted on

ชวนหลีกหนีความวุ่นวาย แล้วไปสัมผัสการท่องเที่ยววิถีกาแฟ ณ บ้านปางขอน

หากคุณเป็นคนหนึ่งที่ชื่นชอบรสชาติและกลิ่นหอมของกาแฟ รวมถึงหลงใหลในเรื่องราวของวิถีชีวิตชาวบ้าน เราอยากจะเชิญชวนให้ทุกคนได้หลีกหนีความวุ่นวายจากในเมือง แล้วออกไปเที่ยวสัมผัสบรรยากาศของชุมชนทางภาคเหนือ จังหวัดเชียงราย ณ บ้านปางขอน ที่ซึ่งเป็นจุดกำเนิดของกาแฟอาราบิก้าแท้ของประเทศไทย

ทำความรู้จักกับ “บ้านปางขอน”

บ้านปางขอน ตั้งอยู่ที่ตำบลห้วยชมพู อำเภอเมือง ในจังหวัดเชียงราย สามารถเดินทางไปได้สะดวกเนื่องจากอยู่ไม่ไกลจากตัวเมืองมากนัก บริเวณโดยรอบของบ้านปางขอนเต็มไปด้วยธรรมชาติที่สวยงาม มีพื้นที่ส่วนใหญ่เป็นเทือกเขาและดอยสูง ทำให้เหมาะแก่การปลูกพืชเมืองหนาว และ “กาแฟ” ซึ่งเป็นเสมือนพืชพื้นเมืองของชาวบ้าน ณ บ้านปางขอนเลยทีเดียว

ชาวบ้านที่อาศัยอยู่ที่นี่ล้วนเป็นชาวเขาเผ่าอาข่า ซึ่งแต่เดิมนั้นไม่ได้มีอาชีพปลูกกาแฟมาตั้งแต่ต้น แต่ใช้ชีวิตด้วยการประกอบอาชีพปลูกฝิ่นและทำไร่เลื่อนลอย สิ่งเหล่านี้ล้วนสร้างผลกระทบต่อชุมชนของชาวอาข่าเอง ทั้งปัญหายาเสพติด และปัญหาสิ่งแวดล้อมจากการเผาป่าเพื่อทำไร่เลื่อนลอย ทำให้บริเวณนั้นเต็มไปด้วยภูเขาหัวโล้น

แต่ทั้งนี้ปัญหาต่างๆ ก็ได้หมดไป เมื่อชุมชนบ้านปางขอนได้รับความช่วยเหลือโดยการจัดตั้งโครงการรัฐวิสาหกิจชุมชนบ้านปางขอนขึ้นมา ซึ่งได้ให้ความรู้และให้นำกาแฟพันธุ์อาราบิก้าแท้จากแอฟริกาเข้ามาปลูก ทำให้ชาวบ้านมีอาชีพใหม่ที่สร้างรายได้อย่างมั่นคงและยั่งยืนมากขึ้น อีกทั้งยังได้รับการอบรมเกี่ยวกับการท่องเที่ยวและภาษาอังกฤษเพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยวอีกด้วย

วิถีกาแฟ ณ บ้านปางขอน

ผู้ที่ชื่นชอบการดื่มกาแฟ รับรองว่าต้องรู้สึกฟินและมีความสุขมากแน่ๆ เมื่อได้เดินทางมาท่องเที่ยวถึงแหล่งกำเนิดกาแฟอาราบิก้าแท้ของประเทศไทย ด้วยความที่กาแฟที่นี่ปลูกบนบริเวณเทือกเขาสูงไร้การรบกวนจากภายนอก ทำให้กาแฟมีความหอมหวานที่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะ

ซึ่งการท่องเที่ยววิถีกาแฟนี้จะทำให้คุณได้สัมผัสและเรียนรู้กระบวนการผลิตกาแฟ เริ่มตั้งแต่การเก็บเกี่ยว คัดเลือกเมล็ด ไปจนถึงการแปรรูปอย่างการตาก การกะเทาะ คั่ว บด และชงออกมาเป็นกาแฟด้วยวิธีการที่ต่างกัน เหมาะมากๆ สำหรับคนที่หลงใหลในกลิ่นหอมและเรื่องราวของกาแฟ อีกทั้งยังนับเป็นประสบการณ์ดีๆ ที่หาได้ยากในปัจจุบัน

สัมผัสธรรมชาติบนดอยสูง

นอกเหนือจากเรื่องราวของกาแฟแล้ว วิวทิวทัศน์และบรรยากาศบนดอยสูงนั้นยังมีความสวยงามมากๆ เราสามารถไปกางเต้นท์นอนท่ามกลางทะเลหมอก ตื่นมาดูพระอาทิตย์ขึ้นพร้อมๆ กับจิบกาแฟ ยิ่งในช่วงหน้าหนาวทั่วทั้งดอยก็จะเต็มไปด้วยดอกนางพญาเสือโคร่งบานสะพรั่งอย่างสวยงาม หรือหากอยากลิ้มลองอาหารพื้นบ้านของชนเผ่าก็มีบริการเช่นกันนะ!

แต่ถ้าใครยังไม่มีเวลาว่างที่จะไปเที่ยว เราก็สามารถยกบ้านปางขอนมาให้ถึงที่ได้ เพียงแค่ดื่มกาแฟ “อะมา” ที่ส่งตรงจากมือชาวอาข่า ณ บ้านปางขอน ด้วยความหอมและรสชาติอันกลมกล่อมนุ่มนวลนี้จะทำให้คุณรู้สึกเหมือนได้ไปกางเต้นท์จิบกาแฟกลางทะเลหมอกถึงที่เชียงรายเลยทีเดียว!

Posted on

อะมา (AMA) กาแฟออร์แกนิค อีกหนึ่งทางเลือกสำหรับคนรักสุขภาพ


หลายๆ คนคงจะคุ้นเคยกับคำว่า “ออร์แกนิค” กันดียิ่งในปัจจุบันนี้ที่เทรนด์การรักสุขภาพและการดูแลตัวเองกำลังเป็นที่นิยมในวงกว้าง ทุกคนต่างใส่ใจกับการออกกำลังกายและการเลือกรับประทานอาหารมากขึ้น ทำให้มีทั้งอาหารและพืชออร์แกนิคมากมายออกสู่ท้องตลาด แน่นอนว่าก็ยังมีอีกหลายคนที่ไม่รู้ว่าผักออร์แกนิคคืออะไร แตกต่างจากผักปลอดสารพิษหรือเปล่า?ทานแล้วจะให้สารอาหารเหมือนผักปกติทั่วไปมั้ย? หรือจะหาทานยากหรือเปล่า? วันนี้เรามีคำตอบมาให้คุณแล้ว!

ออร์แกนิคคืออะไร?
ออร์แกนิค (Organic) หรือที่อีกชื่อนึงเรียกว่า เกษตรอินทรีย์ เป็นวิธีการปลูกพืชหรือผลิตภัณฑ์ที่ปลอดสารเคมีทุกอย่างโดยจะไม่มีการดัดแปลงใดๆ เลย ไม่มีการใส่ปุ๋ยเคมี ฮอร์โมนเร่งการปลูก หรือสารกำจัดแมลงทุกชนิดซึ่งทำให้พืชออร์แกนิคนั้นมีความปลอดภัยสูงมาก ไม่มีสารตกค้างหรือสารพิษที่จะสามารถก่อให้เกิดโทษต่อร่างกายเราได้และในระบบการผลิตยังมีความปลอดภัยต่อดิน น้ำ และอากาศด้วยนะ

เรียกได้ว่าเป็นมิตรกับทุกสิ่งรอบตัวจริงๆส่วนผักปลอดสารพิษนั้น ความจริงแล้วก็ยังมีการใช้สารเคมีในกระบวนการปลูกอยู่ เช่น ปุ๋ยเคมี หรือฮอร์โมนในการปลูกแต่จะไม่มีการใช้สารกำจัดแมลง และจะมีการตรวจสอบสารตกค้างของผลผลิตว่าต้องไม่สูงเกินมาตรฐานที่สำนักงานมาตรฐานสินค้าเกษตรและอาหารแห่งชาติกำหนดไว้ ถ้าให้เปรียบเทียบกันแล้วพืชผักออร์แกนิคจึงมีความปลอดภัยมากกว่า แต่ในขณะเดียวกันก็จะมีราคาที่สูงกว่าปกติ เพราะใช้วิธีปลูกแบบธรรมชาติใช้เวลานาน มีต้นทุนการผลิตที่สูง และต้องคอยดูแลเป็นพิเศษนั่นเองประโยชน์ของพืชออร์แกนิคแน่นอนว่าเมื่อราคาสูงสิ่งที่ได้รับก็ย่อมสูงตามไปด้วย

พืชผักออร์แกนิคนั้นมีความปลอดภัยต่อผู้บริโภคสูงมากเพราะไม่มีสารเคมีตกค้างในร่างกายซึ่งสารเคมีหรือสารตกค้างในพืชผักนั้น มีทั้งสารก่อมะเร็ง สารที่เป็นอันตรายต่อเด็กในท้องของคุณแม่ ยาฆ่าแมลงที่ทำให้ฮอร์โมนผิดปกติ และอีกสารพัดความอันตราย นอกไปจากเรื่องโรคแล้วอีกสิ่งที่สำคัญคือพืชออร์แกนิคจะมีสารอาหารต่างๆ เช่น วิตามิน เกลือแร่และสารต้านอนุมูลอิสระที่มีคุณค่ามากกว่าผักปกติทั่วไป แถมรสชาติก็ยังดีกว่าอีกด้วยนะ!

อะมา (AMA) แบรนด์กาแฟคุณภาพที่ใช้วิธีการปลูกแบบออร์แกนิค
สำหรับใครที่ชื่นชอบการดื่มกาแฟเป็นชีวิตจิตใจ และกำลังสงสัยว่ามีกาแฟออร์แกนิคหรือเปล่าต้องขอบอกก่อนเลยว่าในปัจจุบันนี้มีการผลิตกาแฟออร์แกนิคออกสู่ตลาดแล้ว แต่ยังเป็นจำนวนที่น้อยอยู่เพราะการปลูกกาแฟทั่วๆ ไป ยังคงมีการใช้สารเคมีหรือปุ๋ยเคมีเพื่อเร่งระยะเวลาการผลิตเหมือนกับพืชอื่นๆเพื่อให้ได้เมล็ดกาแฟปริมาณมากในระยะเวลาที่ไม่นานนัก

แต่สำหรับ อะมา (AMA) เราเป็นกาแฟอาราบิก้าแท้ 100%ที่มีวิธีการปลูกแบบออร์แกนิค ซึ่งใส่ใจในทุกขั้นตอนการปลูกจากแหล่งธรรมชาติที่มีความอุดมสมบูรณ์ ปลูกบนยอดเขาที่สูงกว่าระดับน้ำทะเลกว่า 1,280 เมตร และไร้การรบกวนจากภายนอก
ทำให้เมล็ดกาแฟที่ได้มีรสชาตินุ่มนวลกลมกล่อมเป็นเอกลักษณ์ไม่เหมือนใครถ้าคุณเป็นคนหนึ่งที่ชอบดื่มกาแฟและอยากหันมาดูแลตัวเองและสุขภาพ นี่เป็นกาแฟออร์แกนิคที่ตอบโจทย์คุณได้แน่นอน รับรองว่าคุณจะได้ดื่มกาแฟที่ทั้งรสชาติดีและปลอดภัยต่อร่างกายเลยล่ะ!

Posted on

อะมา (AMA) แบรนด์กาแฟคุณภาพสูง ที่ทำให้คุณได้รักษ์โลกและให้โอกาสชุมชน

ในโลกยุคปัจจุบันนี้ที่มองไปทางไหนก็อดไม่ได้ที่จะต้องเจอกับมลพิษ ฝุ่นควัน ขยะไปจนถึงปัญหาขนาดใหญ่ที่ทั้งโลกจับตามอง นั่นก็คือเรื่องของ “ภาวะโลกร้อน” ทำให้หลายๆคนเกิดการตื่นตัวและหันมาใส่ใจในเรื่องของสิ่งแวดล้อมมากขึ้น ทั้งการงดใช้ถุงพลาสติกแล้วหันมาใช้ถุงผ้าแทน

การใช้กล่องข้าวที่ไม่ได้ทำมาจากโฟม การแยกขยะเพื่อให้ง่ายต่อการทำลายและรีไซเคิล เรียกได้ว่าทุกคนพยายามที่จะรักษาสิ่งแวดล้อมและโลกในทุกๆ ขั้นตอนการใช้ชีวิตและมันคงจะดีที่การดื่มกาแฟสดจากเมล็ดกาแฟอาราบิก้าแท้คุณภาพสูง จะช่วยทำให้คุณได้รักษ์โลกไปพร้อมๆกับการให้โอกาสชุมชน รักษ์โลก รักสิ่งแวดล้อม ด้วยการปลูกแบบออร์แกนิค

การปลูกพืชแบบออร์แกนิคเป็นวิธีการปลูกพืชที่ปราศจากสารเคมีทุกๆ อย่าง ไม่ว่าจะเป็นการดัดแปลงใดๆ การใส่ปุ๋ยเคมีฮอร์โมนเร่งการปลูก หรือสารกำจัดแมลงทุกชนิด ซึ่งนั่นทำให้พืชหรือผลผลิตที่ได้รับมีความปลอดภัยต่อร่างกายของเรามากๆ ไม่มีเรื่องของสารตกค้างให้เรากังวลใจเลยล่ะ และในแง่ของสิ่งแวดล้อม สิ่งต่างๆ ที่ได้กล่าวมาทั้งสารเคมี ปุ๋ยเคมีหรือสารกำจัดแมลง ก็ล้วนส่งผลกระทบโดยตรงต่อสิ่งแวดล้อม ทั้งดินที่อาจจะมีสารปนเปื้อน สัตว์ต่างๆ ที่อาจจะได้รับสารตกค้าง

ดังนั้นเราจึงเลือกวิธีการปลูกกาแฟแบบออร์แกนิคที่ให้รสชาติที่ดีขึ้นของเมล็ดกาแฟปลูกด้วยความพิถีพิถันในสิ่งแวดล้อมตามธรรมชาติ เลือกใช้อุปกรณ์ต่างๆ ที่จะไม่ทำลายสิ่งแวดล้อมเน้นการใช้วัสดุที่ย่อยสลายได้หรือนำกลับมาใช้ใหม่ได้ ให้คุณมั่นใจได้ว่าการปลูกกาแฟอาราบิก้าของเราจะไม่ทำลายดิน พืช สัตว์ อากาศ น้ำ และผู้คนในบริเวณนั้นๆ เพิ่มพื้นที่สีเขียวในประเทศไทย

แต่เดิมนั้นพื้นที่สูงๆ ในเขตภาคเหนือของไทย หรือตามบริเวณภูเขาจะเป็นที่อยู่อาศัยของชาวเขาซึ่งพวกเค้าเหล่านี้ก็จะมีอาชีพปลูกฝิ่นเพราะอยู่ในพื้นที่สูง และทำไร่เลื่อนลอยเพื่อยังชีพแต่ทว่าผลกระทบที่เกิดขึ้นคือเมื่อมีการปลูกพืชที่ไม่ถูกกับดินนั้น ก็คือทำให้เกิดการทำลายหน้าดิน ดินไม่อุดมสมบูรณ์จนไม่สามารถปลูกพืชอะไรขึ้นอีก ชาวเขาทั้งหลายจึงต้องย้ายเปลี่ยนพื้นที่ในการทำไร่และปลูกพืชต่างๆจึงเกิดการเผาป่าและตัดต้นไม้ไปเรื่อยๆ เพื่อหาพื้นที่ว่าง

ในที่สุดภูเขาทั้งลูกก็กลายเป็นภูเขาหัวโล้นแต่การเข้ามาของต้นกาแฟได้ทำให้ชาวเขาเหล่านี้ไม่ต้องปลูกฝิ่นหรือทำไร่เลื่อนลอยอีกต่อไป พวกเค้าช่วยกันปลูกต้นกาแฟเลิกทำไร่เลื่อนลอย จนเกิดการฟื้นฟูป่า และไม่มีการตัดต้นไม้ เผา หรือถางป่าอีกต่อไปสร้างอาชีพแก่ชุมชนเขาปางขอน จากที่เคยมีปัญหามากมายทั้งเรื่องสิ่งแวดล้อมที่ไม่ดี ป่าไม้โดนทำลายชาวอาข่าต่างปลูกฝิ่นและทำไร่เลื่อนลอยเพื่อยังชีพ รวมไปถึงปัญหาทางสังคมอย่างเรื่องของยาเสพติดในปัจจุบันนี้นั้นได้เปลี่ยนไปแล้วอย่างสิ้นเชิง ด้วยการให้ความช่วยเหลือจากโครงการรัฐวิสาหกิจชุมชนบ้านปางขอนที่นำกาแฟพันธ์อาราบิก้าแท้มาให้ชาวบ้านในชุมชนปลูก จนกลายเป็นการสร้างอาชีพที่ยั่งยืน ผลิตผลมีคุณภาพสูงทำให้พวกเค้าสามารถทำเงินได้ในราคาที่ดี และยังกลายเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่สวยงาม

คุณเองก็สามารถสร้างโอกาสให้แก่ชาวอาข่าได้ ด้วยการสนับสนุนกาแฟ อะมา (AMA)เมล็ดกาแฟสดคุณภาพดีจากยอดเขาสู่มือคุณ

Posted on

ทำความรู้จักกับเทศกาลโล้ชิงช้า เทศกาลแห่งความสุขของชาวอาข่า

ชนเผ่าอาข่า (Akha) เป็นอีกหนึ่งชาติพันธุ์ที่มีประวัติความเป็นมาอย่างยาวนานถึง 2,700 ปีและมีประเพณีรวมถึงวัฒนธรรมมากมายสืบทอดกันมารุ่นสู่รุ่น อาชีพส่วนใหญ่ของชาวอาข่าก็จะเป็นการปลูกพืชไร่ เช่นข้าวโพด ข้าว พืชผักสวนครัว และกาแฟ

ดังนั้นประเพณีวัฒนธรรมหลายๆ อย่างก็จะเกี่ยวข้องกับการเกษตร สำหรับชาวอาข่า ณ บ้านปางขอน จังหวัดเชียงรายก็เป็นหนึ่งในชาวอาข่าที่อาศัยอยู่ในประเทศไทยเช่นกันและนอกจากจะเป็นแหล่งผลิตกาแฟอาราบิก้าแท้คุณภาพสูงแล้วนั้น

พวกเค้าก็ยังมีวัฒนธรรมและประเพณีที่น่าสนใจไม่แพ้กันซึ่งวันนี้เราจะขอพาทุกคนไปทำความรู้จักกับเทศกาลโล้ชิงช้า เทศกาลแห่งความสุขของชาวอาข่ากัน!

เทศกาลโล้ชิงช้าคืออะไร

เทศกาลหรือประเพณีโล้ชิงช้า มีอีกชื่อนึงว่า “แย้ขู่อ่าเผ่ว” เป็นเทศกาลแห่งการเฉลิมฉลองของชนเผ่าอาข่า (อีก้อ)ซึ่งมีความสำคัญเหมือนกับเป็นเทศกาลปีใหม่ของชาวอาข่าเลยทีเดียวโดยวัตถุประสงค์ของการจัดงานก็คือเพื่อเฉลิมฉลองหลังการเสร็จสิ้นฤดูกาลเพาะปลูกและพืชไร่พืชสวนที่ปลูกไว้นั้นมีผลผลิตพร้อมที่จะเก็บเกี่ยวไว้บริโภคแล้ว

นอกจากนี้ยังเป็นพิธีที่รำลึกและบูชาถึงเทพธิดา“อึ่มซาแยะ” ซึ่งชาวอาข่าต่างนับถือเป็นเหมือนบรรพบุรุษของพวกเค้าและเป็นผู้ที่จะประทานความชุ่มชื้นอุดมสมบูรณ์ให้กับข้าวและพืชพันธุ์ธัญญาหารที่ปลูกรวมไปถึงการแสดงออกถึงการให้เกียรติสตรีทุกคนในชนเผ่าอีกด้วยช่วงเวลาที่จัดเทศกาลจะเป็นช่วงที่พืชไร่กำลังเจริญงอกงามพร้อมสำหรับการเก็บเกี่ยว อยู่ในช่วงปลายเดือนสิงหาคมถึงต้นเดือนกันยายนการแต่งกายในพิธี

ทุกๆ คนในงานจะแต่งกายด้วยชุดชนเผ่าอย่างเต็มยศ ทั้งเสื้อผ้าหน้าผมและเครื่องประดับต่างๆที่เตรียมเอาไว้ตลอดปีก็จะเอามาใส่ในงานนี้โดยเฉพาะเลยล่ะ และประเพณีนี้ยังมีความสำคัญต่อผู้หญิงทุกคนจึงมักจะแต่งตัวสวยงามที่สุดและใส่เครื่องหัวกันแบบจัดเต็มกิจกรรมทั้ง 4 วัน
โดยรวมแล้วจะเป็นการเฉลิมฉลอง เต้นรำ โล้ชิงช้า และร้องเพลงกันของคนในหมู่บ้าน โดยจะจัดงานทั้งหมด 4 วันเริ่มจากวันแรกจะให้ผู้หญิงเป็นคนไปตักน้ำจากแหล่งน้ำศักดิ์สิทธิ์ในหมู่บ้านเพื่อนำมาแช่ข้าวเหนียวที่ผสมงาดำสำหรับการเซ่นไหว้บรรพบุรุษ

ในวันที่ 2จะเป็นหน้าที่ของพวกผู้ชายที่จะช่วยกันตัดไม้เพื่อมาทำชิงช้า และเมื่อทำงานเสร็จเรียบร้อยแล้ว ในตอนค่ำๆก็จะมีการฉลองด้วยการเต้นรำอย่างสนุกสนานถึงเช้ามีการนำไม้ไผ่มาทำเป็นเครื่องดนตรีเพื่อสร้างเสียงประกอบจังหวะการเต้นเรียกว่า “ตุ๊บองฉ่อง”วันถัดมาจะเป็นวันของการโล้ชิงช้า ทุกคนทั้งผู้ชายและผู้หญิงจะแต่งตัวสวยงามมาพบปะพูดคุยกันและผลัดกันดึงชิงช้าพร้อมร้องเพลงไปด้วย

ส่วนเด็กๆ ก็จะมีชิงช้าเด็กสำหรับเล่นอยู่ที่หน้าบ้านส่วนในตอนกลางคืนก็จะเต้นรำและมีการเล่นตุ๊บองฉ่องเหมือนวันที่ 2 สำหรับวันสุดท้ายทุกคนจะออกมาโล้ชิงช้าเพื่อเป็นสิริมงคลของตัวเองและครอบครัวรวมทั้งมีการผูกสายชิงช้าก่อนตะวันตกดิน ก็เป็นอันจบเทศกาลนี้อย่างสมบูรณ์
สำหรับใครที่สนใจอยากจะมาเที่ยวเชียงรายในช่วงเทศกาลโล้ชิงช้าก็ถือเป็นการท่องเที่ยวที่น่าสนใจและคงจะสร้างประสบการณ์ใหม่ๆ ให้กับทุกคนได้อย่างดีเลยล่ะ และที่สำคัญอย่าลืมแวะชิมผลิตภัณฑ์จากชุมชนอาข่า ณ บ้านปางขอน จังหวัดเชียงรายอย่างกาแฟอาราบิก้าแท้ๆ 100% กาแฟคุณภาพอันดับหนึ่งของไทยกันนะคะ!