ใครเป็นคอกาแฟบ้างยกมือขึ้น หลายๆ คน คงจะยกมือกันแถว ซึ่งบอกได้เลยว่ากาแฟในปัจจุบันนี้มีอยู่หลากประเภท ไม่ว่าจะเป็นมอคค่า ลาเต้ คาปูชิโน่ ฯลฯ โดยส่วนผสมของกาแฟก็จะแตกต่างกันออกไป และในบทความนี้เราจะพาคุณไปพบกับจำนวนแคลอรีของกาแฟแต่ละประเภทกัน ว่าประเภทไหนมีเยอะมีน้อยเพื่อที่คุณจะได้นำไปพิจารณาก่อนตัดสินใจซื้อมาดื่ม ดังนั้นไม่ให้เป็นการเสียเวลา เราไปพบกับข้อมูลที่ทางทีมงานได้นำมาฝากกันเลย

Mocha 

กาแฟประเภทนี้จะมีแคลอรีต่อแก้วประมาณ 290 Kcal ซึ่งถือว่าเยอะมาเป็นอันดับ 1 เลยทีเดียว 

Latte 

กาแฟประเภทนี้จะมีแคลอรีต่อแก้วประมาณ 220 Kcal 

Cuppucino 

กาแฟประเภทนี้จะมีแคลอรีต่อแก้วประมาณ 140 Kcal 

Americano 

กาแฟประเภทนี้จะมีแคลอรีต่อแก้วประมาณ 15 Kcal 

Drip Coffee 

กาแฟประเภทนี้จะมีแคลอรีต่อแก้วประมาณ 5 Kcal

ข้อควรรู้

จำนวนแคลอรีที่เราได้กล่าวไปข้างต้นนั้น ยังไม่ได้รวมวิปครีมหรือเครื่องปรุงแต่งอื่นๆ ซึ่งถ้าคุณต้องการดื่มกาแฟเพื่อสุขภาพแล้วล่ะก็ Americano และ Drip Coffee คงจะเป็นตัวเลือกที่สนใจมากที่สุด

 เครื่องดื่มแต่ละประเภทล้วนมีจำนวนแคลอรีที่แตกต่างกันออกไป ซึ่งอยู่กับคุณแล้วล่ะว่าจะชอบหรือประทับใจในรสชาติของกาแฟประเภทไหนมากที่สุด แต่ถ้าจะให้เราแนะนำกาแฟที่ดีต่อสุขภาพอันดับหนึ่ง ก็คงจะหนีไม่พ้นกาแฟดำหรืออเมริกาโน่ เพราะไม่มีส่วนผสมของน้ำตาลหรือครีมเทียม ซึ่งหัวใจหลักของกาแฟประเภทนี้คือ เมล็ดกาแฟจะต้องมีคุณภาพ หอม นุ่มละมุนแต่ยังคงแอบแฝงไปด้วยความเข้มข้นเฉพาะตัว และแน่นอนว่า “กาแฟอะมา ปางขอน” คงจะสามารถตอบโจทย์ในเรื่องนี้ได้ดีมากที่สุด เพราะด้วยกรรมวิธีการปลูกที่เป็นแบบออแกร์นิคแท้ 100% ผสมผสานกันสภาพอากาศที่ไร้มลพิษบนเขาปางขอน จังหวัดเชียงราย ทำให้ “กาแฟอะมา ปางขอน” กลายเป็นกาแฟขั้นดีของไทย ที่ใครๆ ก็ต้องติดใจเมื่อได้ลอง คุณสามารถสอบถามรายละเอียด/สั่งซื้อสินค้าได้ที่ FB:อะมา คอฟฟี่ ปางขอน

 แม้ว่าทุกคนจะรู้กันดีว่ากาแฟนั้น เป็นเครื่องดื่มที่ทุกคน ทุกอาชีพ สามารถดื่มได้โดยที่ไม่มีข้อจำกัด แต่ คุณเคยมีข้อสงสัยบ้างหรือไม่ ว่าอาชีพไหนที่สมควรจะดื่มกาแฟมากที่สุด ? ฮั่นแน่ คิดไม่ถึงเลยใช่ไหมล่ะว่ามันจะมีคำถามนี้เกิดขึ้นมา ซึ่งทีมงานก็ไม่รอช้าที่จะออกไปเสาะหาข้อมูลมาให้คุณ ว่าแท้ที่จริงแล้วอาชีพไหนกันแน่ ที่ควรจะดื่มกาแฟเป็นประจำทุกวัน และถ้าคุณพร้อมแล้ว เราไปพบกับคำตอบสุดแปลกนี้กันได้เล้ยยยย 

นักธุรกิจ/เจ้าของกิจการ

คงจะไม่ต้องสงสัยเลยว่าทำไมอาชีพนี้ถึงสมควรที่จะดื่มกาแฟ ซึ่งก็เพราะว่าการทำงานที่ต้องคิดนั้นคิดนี่อยู่ตลอดเวลา อาจจะทำให้สมองเกิดความเครียดได้ และกาแฟนี่แหละที่จะช่วยบรรเทาอาการเครียดได้เป็นอย่างดีเลยทีเดียว 

ฟรีแลนซ์ 

ปฏิเสธไม่ได้เลยว่าอาชีพฟรีแลนซ์นั้นนอนไม่เป็นเวลา ดังนั้นร่างกายของผู้ประกอบอาชีพนี้จึงมักจะอ่อนเพลียอยู่เสมอ ซึ่งกาแฟก็จะกลายเป็นฮีโร่เข้ามาช่วยสร้างความสดชื่น ให้ตื่นเต็มตา มีพลังทำงานได้นั่นเอง

หมอ/พยาบาล

นอนไม่เป็นเวลา+ความกดดัน บอกได้คำเดียวว่าคุณหมอและพยาบาลเป็นอาชีพที่ต้องดื่มกาแฟเพื่อสร้างความตื่นตัวหากเข้าเวรดึกหรือลดอาการเครียดจากงานที่ต้องเจอ  โดยส่วนใหญ่แล้วคุณหมอและพยาบาลจะเลือกดื่มกาแฟดำ เพราะดีต่อสุขภาพมากกว่ากาแฟประเภทอื่นๆ ยังไงล่ะ 

 อาชีพที่เรากล่าวไปนั้นสมควรที่จะดื่มกาแฟเป็นอย่างมาก เพราะด้วยเวลาการทำงาน สังคม หรือแม้แต่ปัจจัยอื่นๆ รอบตัว ทำให้อาชีพข้างต้น ถือได้ว่าเหมาะสมมากที่จะใช้กาแฟเป็นตัวช่วยเพิ่มความสดชื่นให้กับร่างกาย แต่ในหลักความเป็นจริงแล้ว ทุกๆ อาชีพก็สามารถทานกาแฟได้หมด ไม่มีผิด ไม่มีถูก ซึ่งสิ่งที่จะทำให้การดื่มกาแฟสมบูรณ์นั้นจะต้องเลือกเมล็ดกาแฟที่มีคุณภาพอย่าง “กาแฟอะมา บางขอน” กาแฟออแกร์นิคจากเขาปางขอน จ.เชียงราย ที่ปลูกโดยชาวอาข่า โดยกาแฟอะมาปางขอนนั้น เป็นกาแฟอาราบิก้าแท้ 100% เกรด A ที่ถูกคั่วอย่างพิถีพิถันจากผู้เชี่ยวชาญเฉพาะทาง จึงทำให้รสชาติของมัน โดดเด่นจนยากที่จะลืมเลือน คุณสามารถติดต่อสอบถามรายละเอียด/สั่งซื้อสินค้าได้ทาง FB: อะมา คอฟฟี่ ปางขอน

สิ่งที่เป็นเสมือนแขนขาของร้านกาแฟ ก็คงจะเป็นอะไรไปไม่ได้เลยนอกจาก ‘เครื่องชงกาแฟ’ ที่มีราคาตั้งแต่หลักพันไปจนถึงหลักหมื่น อ่ะ อ่ะ อ่ะ กล่าวมาแบบนี้หลาย ๆ คน คงจะมีคำถามในหัวขึ้นมาว่าแล้วจะเลือกซื้อเครื่องชงกาแฟรุ่นไหนไปไว้ที่ร้านดีนะ ? ซึ่งคุณก็ไม่ต้องเป็นกังวลใจไป เพราะเราได้รวบรวมเครื่องชงกาแฟสุดปัง มาไว้ให้คุณแล้ว ขอแอบกระซิบเลยว่าแต่ละรุ่นนั้น มีลูกเล่นต่าง ๆ มากมายให้คุณได้เพลิดเพลินไปกับการชงกาแฟได้อย่างไม่รู้จบเลยล่ะ

OTTO เครื่องชงกาแฟ รุ่น CM-025A

มาเริ่มกันที่ตัวแรกอย่าง OTTO รุ่น CM-025A ที่รูปทรงกะทัดรัด ในราคาเบา ๆ เพียงหลักร้อย เหมาะกับผู้ที่พึ่งเปิดร้านใหม่ ยังไม่ได้มีฐานลูกค้าเยอะมากมายซึ่งตัวนี้มีระบบตัดไฟอัตโนมัติเพิ่มสร้างความปลอดภัยให้แก่ผู้ใช้งานได้เป็นอย่างดีโดยตัวโถแก้วจะสามารถบรรจุน้ำได้มากที่สุดถึง 5 แก้วต่อครั้ง

SKG เครื่องชงกาแฟ Mr. Coffee รุ่น SK-1205

เครื่องชงกาแฟสำหรับเมล็ดกาแฟคั่วบด โดยตัวเครื่องจะมีขนาดปานกลาง ราคา 4-6 พันบาท เหมาะกับร้านกาแฟขนาดเล็ก แต่ความสามารถของเจ้าเครื่องนี้ไม่ได้เล็กตาม เพราะมาพร้อมกับฟังก์ชันต่าง ๆ อีกมากมาย เช่น สามารถทำฟองนมได้เนียมนุ่ม และทำกาแฟได้หลากหลายชนิดไม่ว่าจะเป็น เอสเปรสโซ, คาปูชิโน, ลาเต้, มอคค่า, ชา เป็นต้น

DeLonghi เครื่องชงกาแฟ รุ่น EC685

ราคาเริ่มขยับขึ้นจากสองตัวได้บน โดยเครื่องทำกาแฟตัวนี้จะมีราคาประมาณ 13,000 บาท โดยแบรนด์ DeLonghi ถือว่าเป็นเจ้าใหญ่ในตลาดเครื่องทำกาแฟ และแน่นอนว่าราคามาขนาดนี้ คุณสมบัติพิเศษต่าง ๆ ก็คงไม่ธรรมดาอย่างแน่นอน ทั้งทำกาแฟแบบเอสเปรสโซ ทำฟองคาปูชิโน ฯลฯ เรียกได้ว่าออกแบบมาเพื่อร้านกาแฟในเมืองอย่างแท้จริง

GAGGIA Viva Deluxe

แบรนด์เครื่องทำกาแฟแบรนด์นี้ กำลังได้รับความนิยมเพิ่มมาขึ้นทุก ๆ วัน เพราะด้วยการออกแบบที่สวยงามและความสามารถที่ล้นเหลือ ทำให้เครื่องทำกาแฟ GAGGIA Viva Deluxe กลายเป็นเครื่องทำกาแฟที่ถูกจับตาจากเหล่าเจ้าของร้านกาแฟและผู้ที่ชื่นชอบการ ชงกาแฟทานเอง เพราะด้วยราคาประมาณ 6-7 พันบาท ทำให้หลาย ๆ คนต่างสนใจที่จะจับจองเป็นเจ้าของเครื่องทำกาแฟเครื่องนี้ โดยฟังก์ชันเด่น ๆเลยคือ มีก้านอัดแบบ Pressurized ที่สร้างแรงดันได้ในตัว ช่วยให้ไม่ต้องใช้ Tamper ในการกดอัดผงกาแฟ เครื่องชงกาแฟที่ดี ไม่ได้มีข้อจำกัดว่าต้องแพงเสมอไป แต่สิ่งที่คุณควรคำนึงถึงมากที่สุด นั่นก็คือการใช้งาน ดังนั้นก่อนที่จะเลือกซื้อเครื่องชงกาแฟ คุณอาจจะทำการสำรวจก่อนว่าร้านของคุณเน้นชงกาแฟแบบไหน กลุ่มลูกค้าชอบดื่มกาแฟอะไร เพื่อที่จะได้ตัดสินใจซื้อเครื่องชงกาแฟที่ตรงกับการใช้งานให้ได้มากที่สุดและหลังจากซื้อเครื่องชงกาแฟแล้วอย่าลืมเลือกเมล็ดกาแฟคุณภาพดีจากดอยปางขอน จังหวัดเชียงราย อย่าง ‘กาแฟอะมา’ กาแฟอาราบิก้าแท้ไว้ติดร้านด้วย เพราะไม่ว่าเครื่องชงของคุณจะเป็นรุ่นอะไร ยี่ห้อไหน กาแฟอะมาก็จะยังคงไว้ซึ่งรสชาติที่หอม ละมุน จนคุณและลูกค้าแทบจะอดใจไม่ไหวเลยล่ะ และที่สำคัญกาแฟอะมาเป็นกาแฟออร์แกนิคแท้ 100% ผ่านมาตรฐาน GMPเรียบร้อยแล้วด้วย

ในปัจจุบันนี้ปฏิเสธไม่ได้เลยว่าหลาย ๆ คน ที่หลงรักในมนต์เสน่ห์ของกาแฟเริ่มหันมาชงกาแฟดื่มเองที่บ้านมากขึ้น แต่ก็ยังมีข้อสงสัยเกิดขึ้นว่า การชงกาแฟดื่มที่บ้านเองนั้นมันจะดีกว่าการไปซื้อดื่มที่ร้านจริง ๆ หรอ? ซึ่งในวันนี้เราจึงรวบรวมข้อดีอันทรงคุณค่าของการชงกาแฟดื่มที่บ้านมาฝากและบอกได้เลยว่าแต่ละข้อนั้นอาจจะกลายเป็นสาเหตุหรือจุดเริ่มต้นที่อาจจะทำให้คุณอยากจะหันมาชงกาแฟดื่มเองที่บ้านก็เป็นได้…

รสชาติที่ถูกปากมากกว่า

ข้อดีข้อแรกสำหรับการชงกาแฟดื่มเองนั่นก็คือคุณจะได้รสชาติที่ตรงตามความต้องการ เพราะหลาย ๆ ครั้งที่ Coffee Shop ไม่สามารถชงกาแฟได้ตามที่เราต้องการ แต่ สำหรับการชงดื่มเองที่บ้านนี้ไม่ว่าคุณจะต้องการหวานมากสักแค่ไหน หรือจะใส่นมมากสักเท่าไหร่ก็ทำการปรุงแต่งได้เลยเต็มที่ แถมไม่จำกัดปริมาณอีกด้วย

ได้รับรู้ถึงขั้นตอนการชงกาแฟ

ข้อดีในข้อนี้ ถือว่าเป็นการเปิดโลกให้คุณได้มีความรู้ใหม่ ๆเพิ่มมากขึ้นเกี่ยวกับการชงกาแฟ ซึ่งถ้าคุณไม่ได้ลงมือชงกาแฟเองคงจะไม่รู้เลยว่าขั้นตอนการปรุงแต่งกาแฟนั้น มีรายละเอียดอยู่มากมายไม่ว่าจะเป็นอุณหภูมิของน้ำร้อน กดค่อย ๆ รินน้ำ การตวงส่วนผสมต่าง ๆ ฯลฯ

ประหยัดเงินในกระเป๋า

แม้ว่าการชงกาแฟดื่มเองที่บ้าน จะต้องลงทุนซื้ออุปกรณ์ต่าง ๆ มากมายแต่หากคุณลองเปรียบเทียบระยะเวลาการใช้งาน คุณจะพบทันทีเลยว่าการชงกาแฟดื่มเองที่บ้านนั้น คุ้มค่ากว่าการไปซื้อกาแฟจาก Coffee Shopอยู่หลายเท่าตัวเลยล่ะ

เพิ่มมูลค่าของการชงกาแฟ

การเพิ่มมูลค่าในที่นี้หมายถึง คุณสามารถปรับเปลี่ยนสูตรกาแฟได้ตามใจชอบจนบางครั้งคุณอาจจะคิดค้นกาแฟสูตรใหม่ ๆ จนกลายมาเป็นตัวสร้างกำไรให้คุณในภายหลังก็ได้เพราะอย่างที่ทราบกันดีว่าการปรุงแต่งกาแฟนั้น ไม่มีที่สิ้นสุด

หลีกเลี่ยงส่วนผสมที่เป็นอันตรายต่อร่างกาย

หากคุณไปซื้อกาแฟตาม Coffee Shop คุณก็ไม่สามารถที่จะรู้ได้เลยว่าส่วนผสมที่พนักงานใส่ไปในกาแฟนั้นมีอะไรบ้าง?ปลอดภัยหรือเปล่า? สะอาดหรือไม่? ซึ่งคำถามเหล่านั้นจะหมดไปถ้าคุณได้ชงกาแฟดื่มเองที่บ้านจากข้อมูลที่เรากล่าวไป
คงพอจะทำให้คุณนั้นเห็นภาพและคุณค่าของการชงกาแฟดื่มเองที่บ้านมากยิ่งขึ้นแต่ อีกสิ่งที่หนึ่งที่คุณห้ามลืมอย่างเด็ดขาดสำหรับการชงกาแฟดื่มเองนั่นก็คือ‘การเลือกเมล็ดกาแฟ’ ยิ่งคุณเลือกเมล็ดกาแฟมีคุณภาพมากเท่าไหร่ก็จะทำให้การชงกาแฟดื่มเองที่บ้านของคุณนั้นมีความสุขและได้รสสัมผัสดีมากยิ่งขึ้นกว่าเดิม ซึ่งก็คงจะเป็นเมล็ดกาแฟอะไรไปไม่ได้เลย นอกจาก ‘อะมา’เม็ดกาแฟอาราบิก้าแท้ 100% คุณภาพส่งออกของไทย จากชุมชนปางขอน จังหวัดเชียงราย ที่ผ่านกรรมวิธีการผลิตที่สุดแสนจะบรรจงจนกลายเป็นเมล็ดกาแฟที่ขึ้นชื่อในเรื่องความอร่อยที่ยากจะหาใครเหมือนซึ่งถ้าคุณไม่อยากจะพลาดความหอมละมุนของกาแฟอะมาแล้วล่ะก็สามารถติดต่อ-สั่งซื้อสินค้า ได้ทาง Inbox Facebook : อะมา คอฟฟี่ ปางขอน

บางคนยังคงตั้งแง่และคิดว่าการดื่มกาแฟนั้นทำให้หน้าแก่ก่อนวัย แต่ในความจริงแล้ว การดื่มกาแฟไม่ได้ทำให้คุณมีริ้วรอยเลยแม้แต่น้อย ถ้าคุณเลือกรับประทานกาแฟอย่างถูกต้องตามหลักของมัน เผลอ ๆการดื่มกาแฟยังจะช่วยให้คุณนั้นดูอ่อนกว่าวัยและสดใสขึ้นได้อย่างไม่น่าเชื่อเลยล่ะ แต่ใจความสำคัญที่จะทำให้การดื่มกาแฟของคุณนั้นมีประโยชน์โดยตรงคือคุณต้องดื่มกาแฟดำจากเมล็ดกาแฟที่มีคุณภาพดี ก็จะทำให้สารอาหารต่าง ๆ ภายในกาแฟนั้นส่งผลด้านบวกให้กับร่างกายของคุณนั่นเอง

ดื่มกาแฟดำช่วยชะลอวัยได้จริงๆ นะ

ไม่เชื่อก็ต้องเชื่อ ว่ากาแฟดำมันสามารถที่จะช่วยให้ริ้วรอยต่าง ๆ บนใบหน้าของคุณนั้นตื้นขึ้นได้อย่างไม่น่าเชื่อเลยล่ะ ซึ่งถือว่าเป็นการลบคำกล่าวอ้างว่าการกินกาแฟจะทำหน้าแก่ มีริ้วรอยได้อย่างหมดสิ้น โดยการดื่มกาแฟดำนั้นจะทำให้ อ๊อกไซด์แตกตัว ลดการสะสมของออกซิเจนที่มีมากเกินไปจนอาจทำให้แก่เร็วพร้อมทั้งช่วยให้ผิวพรรณของคุณกระชับจนรู้สึกได้ ดังนั้นใครที่มีปัญหาเรื่องริ้วรอยแห่งวัย คงต้องรีบไปหากาแฟมาดื่มสักหน่อยแล้ว แต่ ขอแอบกระซิบว่า ถ้าคุณอยากจะเห็นผล ต้องดื่มกาแฟดำเท่านั้นเพราะถ้าเป็นกาแฟชนิดอื่น ๆ จะไม่มีผลใด ๆ ทั้งสิ้นในเรื่องการลดริ้วรอย

ภายในกาแฟดำ ยังมีสิ่งสำคัญซ้อนอยู่นะ

นอกเหนือจากช่วยลดริ้วรอยแห่งวัยได้จริงแล้วภายในกาแฟดำหนึ่งถ้วยยังถูกรายงานว่ามีส่วนประกอบสำคัญต่าง ๆอยู่อีกมากมาย ไม่ว่าจะเป็นวิตามินบี 2 บี3 บี 5และแร่ธาตุแมงกานีสกับโพแทสเซียมซึ่งแม้ว่ามันอาจจะไม่ได้มากมายเท่ากับอาหารเสริมแต่ก็ถือว่าสารอาหารพวกนี้เป็นสารอาหารที่ร่างกายจำเป็นอย่างแท้จริง

ดื่มกาแฟดำอย่างไรให้ได้ประโยชน์สูงที่สุดนะ ?

แม้ว่ากาแฟดำจะมีคุณประโยชน์มากมาย แต่คุณก็ควรทำการศึกษาให้ดีเวลาไหนที่ควรจะดื่มและเวลาที่ไหนคุณจะหลีกเลี่ยง ซึ่งเราก็ขอสรุปให้คุณได้อ่านง่าย ๆ ดังนั้นช่วงเวลาที่คุณไม่ควรจะดื่มกาแฟดำนั่นก็คือช่วงที่ท้องว่างเพราะมันอาจจะส่งผลให้คุณเกิดอาการท้องเสียเอาได้และช่วงเวลาที่ควรค่าแก่การดื่มกาแฟดำมากที่สุดก็คือช่วงเวลา 8.00-10.00 น. เพราะร่างกายจะดูดซึมสารอาหารต่าง ๆ ภายในกาแฟดำไปใช้ได้อย่างเต็มที่และข้อสำคัญคือคุณไม่ควรดื่มกาแฟดำเกินวันละ 2 แก้ว ดังนั้นการดื่มกาแฟจึงไม่ใช่เรื่องน่ากลัวสำหรับผู้ที่กลัวริ้วรอยอีกต่อไปแต่เราก็ยังเน้นย้ำความสำคัญคือวิธีการกินและการเลือกเมล็ดกาแฟ โดยเมล็ดกาแฟที่ดีจะต้องมีมาตรฐานรับรอง GMP รับรอง อย่างเช่นเมล็ดกาแฟ‘อะมา’ กาแฟอาราบิก้าแท้ 100% จากดินเขาปางขอน จ.เชียงรายของไทยที่ถูกปลูกด้วยระบบออร์แกนิคจึงไร้สารอันตรายและกลายเป็นเมล็ดกาแฟดำที่มีคุณภาพมากที่สุดของไทยเลยก็ว่าได้อีกทั้งกาแฟอะมาคือความตั้งใจของชนเผ่าอาข่าที่ต้องการให้ผู้ที่ได้ดื่มนั้นประทับใจกับรสชาติที่เป็นเอกลักษณ์ จนยากที่จะลืมเลือน

สำหรับคอกาแฟมือใหม่ที่อยากจะทดลองชงกาแฟดื่มเองที่บ้าน บทความนี้คงจะโดนจิตโดนใจของคุณไม่ใช่น้อยเพราะเราได้ไปรวบรวมรายชื่ออุปกรณ์ในการชงกาแฟมาไว้ให้คุณแล้ว ซึ่งบอกได้เลยว่าอุปกรณ์การชงกาแฟแต่ละอย่างที่เรากำลังจะกล่าวถึงต่อไปนั้นล้วนมีความสำคัญในการชงกาแฟเป็นอย่างมากเพราะมันจะสามารถเนรมิตกาแฟถ้วยโปรดของคุณออกมาได้เหมือนกับการไปซื้อไม่มีผิด แต่อุปกรณ์ที่ว่าจะมีอะไรบ้างเราไปติดตามพร้อม ๆ กันเลย

1.เครื่องชงกาแฟ

เรียกได้ว่าเป็นพระเอกของการทำกาแฟดื่มเองที่บ้านอย่างแท้จริงซึ่งบางคนชอบที่จะใช้เครื่อง บางคนชอบที่จะใช้มือบดอุปกรณ์ในข้อนี้จึงไม่ตายตัวเท่าไหร่นัก ใครชอบแบบไหนก็เลือกได้ตามใจต้องการได้เลย

2.ช้อนตวง ถ้วยตวง

อุปกรณ์ตัวนี้เหมือนจะไม่สำคัญ แต่ จริง ๆ แล้วมันคือตัวกำหนดรสชาติเลยก็ว่าได้ เพราะบางคนเน้นทำตามสูตร ที่ต้องเป๊ะ การใช้ช้อนตวงนี่แหละ ที่ทำให้รสชาติกาแฟของคุณออกมาสมบูรณ์แบบเหมือนกับไปซื้อกาแฟตามร้านแพงเลยล่ะ

3.ฟิลเตอร์กรองกากกาแฟ

กระดาษกรองหรือฟิลเตอร์ ใช้สำหรับกรองไม่ให้กากกาแฟร่วงหล่นลงไปในถ้วยซึ่งความสำคัญของอุปกรณ์ชิ้นนี้คือป้องกันไม่ให้รสชาติของกาแฟเปลี่ยนไปโดยเฉพาะเรื่องกลิ่น อีกทั้งคุณอย่าลืมเลือกกระดาษที่มีความเหนียว ไม่ขาด
เป็นธรรมชาติ ไม่ผ่านการฟอกสีใด ๆ ดีที่สุด

4.แก้วกาแฟ

แบ่งออกเป็น 2 ประเภท คือแก้วพลาสติกแก้วกระดาษ

5.นาฬิกาจับเวลา

นาฬิกาจับเวลา ถือว่าเป็นอีกหนึ่งอุปกรณ์ที่ขาดไม่ได้เลยสำหรับการชงกาแฟเพราะเพียงพลาดแค่ไป 2-3 วิ อุณหภูมิของน้ำก็จะเปลี่ยนไปส่งผลให้รสชาติของกาแฟนั้นเปลี่ยนตามไปด้วย

6.เครื่องตีฟองนม

สำหรับคนที่ชอบฟองนมนุ่ม ๆ อุปกรณ์นี้ถือว่าขาดไม่ได้เลยทีเดียวอีกทั้งเครื่องตีฟองนมยังถือว่าเป็นการเพิ่มลูกเล่นกับกาแฟแก้วโปรดของคุณอีกด้วย

7.เทอร์โมมิเตอร์

เรื่องอุณหภูมิในการชงกาแฟนั้น ถือเป็นเรื่องที่สำคัญอย่างมาก เพราะเครื่องดื่มทุก ๆ ประเภทจะมีเกณฑ์การใช้ความร้อนที่แตกต่างกันออกไปดังนั้นถ้าคุณคิดจะชงกาแฟด้วยตัวเองที่บ้าน อย่าลืมมองหาเทอร์โมมิเตอร์ไว้ข้าง ๆตัวด้วยล่ะ
อุปกรณ์ทั้ง 7 อย่างที่เรากล่าวไปนั้นล้วนแล้วแต่มีความสำคัญเป็นอย่างยิ่งในการชงกาแฟดื่มเอง
หรือสำหรับผู้ที่พึ่งเริ่มเปิดร้านกาแฟใหม่ก็สามารถนำอุปกรณ์ที่เรากล่าวไปข้างต้นไปปรับประยุกต์ใช้ในร้าน Coffee Shop ของคุณก็ได้เช่นกัน แต่ สิ่งที่นอกเหนือจาก 7 อุปกรณ์ที่เรากล่าวไปและมีความสำคัญเป็นอย่างยิ่ง ที่คุณจะต้องเตรียมตัวหาติดบ้านหรือติดร้านไว้ นั่นก็คือ…กาแฟอะมากาแฟอาราบิก้าแท้ 100% ที่ปลูกโดยชนเผ่าอาข่าจากดอยปางขอนจังหวัดเชียงราย โดยกาแฟอะมานี้ถือว่าเป็นเมล็ดกาแฟที่กำลังได้รับกระแสการตอบรับจากคอกาแฟเป็นอย่างดี เพราะด้วยรสชาติที่เป็นเอกลักษณ์ หอม เข้มข้นแต่นุ่มนวลชวนให้ผู้คนที่ได้กลิ่นต่างหลงใหลอีกทั้งกาแฟอะมายังเป็นกาแฟออร์แกนิคอีกด้วย ทั้งอร่อย ทั้งปลอดภัยแบบนี้คอกาแฟคงต้องห้ามพลาดซะแล้วล่ะ

หลาย ๆ คนคงจะเคยได้ยินมาว่าสายพันธุ์กาแฟที่ดีนั้นจะต้องเป็นกาแฟของต่างประเทศ แต่ในปัจจุบันนี้กาแฟสายพันธุ์ต่าง ๆ ของไทยกำลังได้รับความสนใจของคอกาแฟทั่วโลก และถ้ายิ่งเป็นกาแฟของทางภาคเหนือด้วยแล้วรสสัมผัสของกาแฟจะยิ่งทวีคูณความหอม อร่อย ได้อีกเป็นเท่าตัวซึ่งคุณคงอาจจะมีคำถามเกิดขึ้นในใจว่า ‘กาแฟของไทยจะมีรสชาติที่ดีได้จริง ๆ หรอ ?’ ดังนั้นไม่ให้เป็นการเสียเวลาเราจะพาคุณไปหาคำตอบที่น่าทึ่งของกาแฟสายพันธุ์ไทยว่าทำไมถึงได้โด่งดังไกลไปทั่วโลก

1.ราคาถูกจับต้องได้

หากเปรียบเทียบราคาแล้ว กาแฟของไทยนั่นถือว่าจับต้องได้แถมมีคุณภาพดีไม่แพ้กาแฟที่ราคาแพง ๆ ของต่างประเทศเลยสักนิดเดียวทำให้ชาวต่างชาติและคอกาแฟตัวจริงต่างประทับใจและเลือกที่จะบริโภคกาแฟจากทางภาคเหนือของไทยนั่นเอง

2.รสชาติที่เป็นเอกลักษณ์

นอกเหนือจากราคาที่จับต้องได้แล้วรสชาติของกาแฟสายพันธุ์ไทยก็ไม่เคยเป็นสองรองใครเพราะไม่ว่าคุณจะชอบแบบอ่อนนุ่ม เข้มข้น เปรี้ยว หรือไม่ว่าจะรสชาติแบบไหนกาแฟทางภาคเหนือของไทยก็มีครบ จบทุกความต้องการซึ่งที่เป็นแบบนั้นอาจจะเพราะด้วยภูมิประเทศและภูมิอากาศที่แตกต่างกันออกไปของแต่ละพื้นที่ ที่ทำการปลูกกาแฟ

3.มีประโยชน์ต่อร่างกาย

หากคุณได้ลองจิบกาแฟจากทางภาคเหนือในยามเช้าแล้วล่ะก็คุณจะสัมผัสได้ทันทีว่าร่างกายนั้น รู้สึกกระปรี้กระเปร่า อีกทั้งถ้าคุณดื่มกาแฟ (ดำ) เป็นประจำ ร่างกายของคุณก็จะสมบูรณ์มากขึ้นเรื่อย ๆ หรือเรียกง่าย ๆว่าแข็งแรงจากภายในสู่ภายนอกนั่นเองซึ่งที่เป็นแบบนั้นก็เพราะว่าภายในกาแฟ(ดำ) ของไทยนั้น มีสารอาหารต่าง ๆที่ร่างกายต้องการอย่างครบถ้วนยังไงล่ะ

4.กรรมวิธีการผลิตที่โดดเด่น

ไม่ว่าจะเป็นการปลูก การให้ปุ๋ย การให้น้ำ การเก็บผลจนกระทั่งการคั่วเม็ดกาแฟต่างก็มีรายละเอียดที่ซับซ้อน แต่มันเป็นรายละเอียดที่ส่งผลให้รสชาติของกาแฟนั้นออกมาดี ได้อย่างไม่น่าเชื่อซึ่งทางภาคเหนือของไทยคงจะถือได้ว่าเป็นภูมิภาคเดียว ที่มีกรรมวิธีการเก็บเมล็ดกาแฟที่บรรจง และยังคงเต็มไปด้วยมนต์เสน่ห์ในตัวของมันเองจนยากที่ใครจะเลียนแบบหรือทำตามได้ จากข้อมูลที่เรากล่าวไปข้างต้นคงจะพอทำให้คุณรู้แล้วใช่ไหมว่าทำไมกาแฟสายพันธุ์ไทย ถึงได้กลายเป็นเป็นที่ยอมรับของผู้คนทั่วทั้งโลก ซึ่งถ้าจะให้พูดกาแฟสายพันธุ์ไทยที่กำลังมาแรงและกำลังเป็นที่ต้องการของตลาดก็คงจะเป็นใครไปไม่ได้เลยนอกจาก ‘อะมา’ กาแฟอาราบิก้าแท้ 100% จากปางขอน จ.เชียงราย ที่ถูกคัดสรรเมล็ดกาแฟ นำมาคั่วด้วยความใส่ใจ จนทำให้กาแฟอะมา มีรถชาติที่โดดเด่น หอม นุ่ม ไม่ติดรสเปรี้ยว แต่ติดปากของผู้ที่ได้ดื่ม จนทำให้หลาย ๆ คน หลงรักเมล็ดกาแฟอะมาไปอย่างง่ายดาย และที่สำคัญการบริโภคกาแฟอะมานั้นจะเป็นการช่วยเกษตรทางภาคเหนือหรือชาวเผ่าอาข่าได้อีกทางซึ่งนั่นก็ยิ่งทำให้กาแฟอะมากลายเป็นที่จำจดและมีเอกลักษณ์ที่ยากจะหาใครเหมือนนั่นเอง

กาแฟสดถือว่าเครื่องดื่มที่กำลังได้รับความนิยมเป็นอย่างมากในปัจจุบัน อาจจะเพราะว่าผู้คนยุคใหม่เริ่มหันมาใส่ใจสุขภาพกันมากขึ้น จึงหลีกเลี่ยงการดื่มกาแฟที่มีส่วนผสมของน้ำตาล ครีม นม คอฟฟี่เมต ฯลฯ เพื่อให้ได้รับสารอาหารและประโยชน์จากกาแฟแบบเต็ม ๆ ซึ่งหัวใจหลักของการดื่มกาแฟสด คือการเลือกเมล็ดกาแฟเพราะมันจะส่งผลต่อรสชาติของกาแฟถ้วยโปรดของคุณโดยตรง ดังนั้นเราจึงได้นำเคล็ดลับการเลือกเมล็ดกาแฟแบบมืออาชีพมาฝากคุณกัน ซึ่งรับรองเลยว่าถ้าคุณได้นำเคล็ดลับที่เรากำลังจะกล่าวต่อไปนี้ ไปปรับประยุกต์ใช้คุณจะได้รับเมล็ดกาแฟที่ดีอย่างแน่นอน

ดมกลิ่นเมล็ดกาแฟ

เรียกได้ว่าเป็นขั้นตอนสุดแสนจะเบสิก สำหรับการคัดเลือกเมล็ดกาแฟแบบมืออาชีพ โดยคุณสามารถใช้จมูกดมกลิ่นกาแฟก่อนที่จะตัดสินใจซื้อได้ โดยกลิ่นของกาแฟที่คั่วใหม่นั้น จะหอมชนิดที่ว่าแทบจะทะลุบรรจุภัณฑ์ออกมาเลยทีเดียว แต่กลับกันถ้าถุงไหน มีกลิ่นเปรี้ยว กลิ่นบูด กลิ่นรา ก็ให้คุณคิดไว้เลยว่ากาแฟถุงนั้นเก่าและมันอาจจะส่งผลต่อร่างกายของคุณได้หาก บริโภคเข้าไป อีกทั้งกาแฟที่คั่วทิ้งไว้นานเกิน 2 เดือน จะมีกลิ่นที่เหม็นหืนจนคุณรู้สึกได้ โดยในบางกรณีที่กาแฟเหม็นหืนอาจจะมาจากการเก็บรักษาที่ไม่ดีก็ได้เช่นกัน ซึ่งถ้าคุณยังฝืนที่จะบริโภคเมล็ดกาแฟที่มีกลิ่นอันไม่พึ่งประสงค์เข้าไป บอกได้เลยทั้งรสชาติและรสสัมผัส คุณจะไม่ได้อะไรกลับมาเลย!

ตรวจดูวันหมดอายุ วันผลิตให้ชัดเจน

อีกหนึ่งเคล็ดลับสำหรับการเลือกเมล็ดกาแฟนั่นก็คือ ตรวจดูวันเดือนที่ผลิตว่าผลิตขึ้นตั้งแต่วันที่เท่าไหร่และจะหมดอายุวันไหนโดยคุณไม่ควรเลือกกาแฟคัวที่มีอายุเกิน 2 เดือนเพราะมันจะส่งผลด้านลบต่อรสชาติและกลิ่น หรือเรียกง่าย ๆ ว่า ยิ่งนานเท่าไหร่ความหอมของกาแฟก็จะยิ่งลดลงไปเท่านั้น

อ่านฉลากข้างซอง

รายละเอียดข้างซองจะทำให้การตัดสินใจของคุณนั้นง่ายขึ้นอีกหลายเท่าตัวเพราะคุณจะได้เห็นละเอียดของเมล็ดกาแฟอย่างชัดเจน ไม่ว่าจะเป็นระดับการคั่ว รสชาติ กลิ่น แหล่งปลูก เป็นต้น อีกทั้งภายในฉลากยังมีตรารับรองจาก อย. และ GMP ว่าเมล็ดกาแฟถุงนั้นปลอดภัยผ่านมาตรฐานที่ทางการกำหนดหรือไม่และเมล็ดกาแฟที่ได้รับมาตรฐาน GMP อย่างกาแฟ ‘อะมา’
ก็ถือเป็นอีกหนึ่งแบรนด์ที่ได้นำเมล็ดกาแฟคุณภาพดีจากเขาดินปางขอน จ.เชียงราย มาคั่วจนหอมและมีเอกลักษณ์ของรสชาติที่นุ่มละมุนลิ้น อีกทั้งพื้นที่เพราะปลูกเมล็ดกาแฟของ อะมานั้น อยู่สูงจากระดับน้ำทะเลถึง 1,280 เมตร ยิ่งตอกย้ำว่านี่คือเมล็ดกาแฟที่ถูกปลูกในพื้นที่ที่ไร้การรบกวนใด ๆ ทั้งสิ้น ทำให้ผลกาแฟที่ได้มานั้น กลายเป็นเมล็ดกาแฟที่มีคุณภาพระดับส่งออกและหาดื่มยากเป็นอย่างมาก ซึ่งผู้ที่ได้ลิ้มลองรสชาติของกาแฟอะมาต่างพูดเป็นเสียงเดียวกันว่านี่คือกาแฟสายพันธุ์ไทยที่มีรสชาติโดนใจมากที่สุด อีกทั้งกาแฟ อะมายังเป็นผลผลิตที่ภาคภูมิใจของชาวอาข่าที่ตั้งใจจะมอบกาแฟคุณภาพดีให้กับคุณอีกด้วย

หากคุณเคยลองสังเกตดูดี ๆ คุณจะรู้ได้ทันทีว่า ผู้ที่ออกกำลังกายเป็นประจำหรือพึ่งออกมาจาก Gym
จะเลือกดื่มกาแฟดำกันเป็นส่วนใหญ่ และคุณเคยสงสัยหรือไม่ว่าเพราะอะไรพวกเขาถึงได้เลือกดื่มกาแฟดำแทน ลาเต้ คาปูชิโน่ หรือสูตร อื่น ๆ ดังนั้นถ้าเพื่อเป็นการตอบปัญหาคาใจของใครหลาย ๆ เราจึงได้ไปหาข้อมูลเกี่ยวกับกาแฟดำว่ามีส่วนเกี่ยวข้องกับผู้ที่ออกกำลังกายอย่าง ไร หรือมีประโยชน์พิเศษทางด้านไหนบ้าง ซึ่งก็ได้คำตอบที่จะทำให้คุณหายคาใจมาดังนี้…

ห่างไกลน้ำตาลแล้วสุขภาพดีกับกาแฟดำ

มาตอบคำถามที่คาใจของใครหลาย ๆ คน ว่าทำไมผู้ที่ออกกำลังกายหนัก ๆ มักจะเลือกทานกาแฟดำ แทนที่จะเป็นกาแฟประเภทอื่น ๆ ซึ่งที่พวกเขาเลือกทานกาแฟดำก็เพราะว่า ส่วนผสมของกาแฟดำนั้น ไม่มีการใส่น้ำตาล ทำให้ผู้ที่ดื่มนั้น ได้รับคุณค่าอาหารจากกาแฟดำแบบเต็ม ๆ อีกทั้งการดื่มกาแฟดำหลังจากการออกกำลังเสร็จ คาเฟอีนภายในกาแฟดำจะสามารถเผาผลาญได้อย่างเต็มที่ ซึ่งนี่คงจะเป็นเหตุผลหลัก ๆที่ทำให้ผู้ที่ชอบออกกำลังกายมักเลือกดื่มกาแฟดำนั่นเอง

ความรู้สึกผิด ถ้าหากเผลอไปดื่มกาแฟประเภทอื่น

นี่คือเรื่องจริงของผู้ที่เข้า Gym เป็นประจำ โดยพวกเขาได้บอกว่า หากเผลอไปกินเครื่องดื่มที่มีน้ำตาลหรือกาแฟที่ผสมนม ครีมเทียม ฯลฯ พวกเขาจะรู้สึกผิดในทันที เพราะกาแฟดำคือที่สุดของเครื่องดื่มแล้ว และกฎเหล็กในการดื่มกาแฟดำให้ได้ผลมากที่สุดคือ ต้องไม่ใส่น้ำตาล โดยคนที่พึ่งเริ่ม อาจจะค่อย ๆ ลดน้ำตาลลงทีละสเต็ป ซึ่งเชื่อเถอะว่าถ้าคุณทำได้ ร่างกายของคุณได้รับสายอาหารจากกาแฟดำอย่างแน่นอน

ประโยชน์ที่ล้ำค่าของกาแฟดำ

นอกเหนือจากจะช่วยเบิร์นไขมันในบางส่วนแล้ว กาแฟยังมีคุณสมบัติพิเศษต่าง ๆ อีกมากมาย (แต่ขอย้ำว่าห้ามใส่น้ำตาล) เช่นการช่วยให้หลอดเลือดภายในร่างกายแข็งแรง หัวใจแข็งแรงขึ้นกว่าเดิม ลดโอกาสที่จะเป็นเบาหวานสูงสุดถึง 60% หรือถ้าใครปวดหัวเป็นไมเกรนบ่อย ๆ แล้วล่ะก็ กาแฟดำร้อน ๆ สักหนึ่งแก้ว จะช่วยให้อาการไมเกรนที่คุณเป็นอยู่นั้น บรรเทาและทุเลาได้อย่างไม่น่าเชื่อเลยล่ะ อีกทั้งการดื่มกาแฟดำ ยังทำให้ริ้วรอยแห่งวัยของสาว ๆ ตื้นขึ้นจนสัมผัสได้อีกด้วย และสิ่งที่เป็นหัวใจสำคัญของการดื่มกาแฟดำคือ…เมล็ดกาแฟ โดยเมล็ดกาแฟที่ดีจะทำให้รสสัมผัสในการดื่มกาแฟดำนั้นดีเพิ่มขึ้นหลายเท่าตัว ซึ่งถ้าให้พูดถึงเมล็ดกาแฟที่กำลังได้รับความนิยมและกำลังเป็นที่ถูกจับตาของเหล่าคอกาแฟ ก็คงจะเป็นเมล็ดกาแฟแบรนด์ ‘อะมา’ ที่เป็นกาแฟอาราบิก้าแท้ 100% จากเขาปางขอน จังหวัดเชียงราย โดยกาแฟอะมานั้นมีรสชาติที่โดดเด่นไม่ติดเปรี้ยว หอม ละมุน แต่ยังเต็มไปด้วยความเข้มข้นที่ยากจะหาใครเหมือนและที่สำคัญกาแฟอะมาเป็นกาแฟออร์แกนิค ที่ปลูกด้วยรักจากชนเผ่าอาข่า กาแฟอะมาจึงกลายเป็นเมล็ดกาแฟอันทรงคุณค่าที่คุณควรลอง