นักท่องเที่ยวทั้งไทยและต่างประเทศต่างพูดเป็นเสียงเดียวกันว่า ภาคเหนือของไทยเรานี้คือที่สุดไม่ว่าจะเป็นวิวตามทิวเขา อาหาร วัฒนธรรม อากาศ ผู้คน ฯลฯ เรียกได้ว่าทุกอย่างมันช่างลงตัวไปซะหมด ทำให้ในช่วงเทศกาลภาคเหนือจะเต็มไปด้วยนักท่องเที่ยวมากมาย แต่ คุณเคยคิดเล่น ๆ บ้างหรือไม่ ว่าไปภาคเหนือทั้งทีจะต้องซื้ออะไรติดไม้ติดมือกลับมาบ้าง ?
คำถามข้างต้นนี้ดูเหมือนจะง่าย แต่เอาเข้าจริง ๆ หลาย ๆคนก็ถึงกลับไปไม่เป็นกันเลยทีเดียว ซึ่งคุณก็ไม่ต้องเป็นกังวลไป เพราะในบทความนี้ เราได้ไปรวบรวมของดีที่คุณควรจะซื้อติดไม้ติดมือเมื่อไปเยือนภาคเหนือ แต่จะมีอะไรบ้างเราลองไปติดตามพร้อม ๆ กันเลย
1.ไส้อั่ว
ของที่ขึ้นชื่อเป็นอย่างมากอย่างไส้อั่ว คงจะกลายเป็นดั่งสัญลักษณ์ของทางภาคเหนือไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ซึ่งไม่ว่าใครที่ได้ไปเที่ยว ต่างก็ต้องซื้อติดไม้ ติดมือกลับบ้านกันคนละโลสองโล แต่ก็ไม่ใช่เรื่องน่าแปลกอะไร เพราะรสชาติของไส้อั่วเป็นที่รู้กันดีอยู่แล้วว่า อร่อย แต่ไส้อั่วของแต่ละจังหวัดจะมีรสชาติและส่วนผสมที่แตกต่างกันออกไป ซึ่งก็อยู่ที่คุณแล้วล่ะว่าชอบไส้อั่วของจังหวัดไหนเป็นพิเศษ
2.แคปหมู-น้ำพริกหนุ่ม
อีกหนึ่ง Item ที่ไม่ว่าใครจะมาภาคเหนือ ต่างก็ต้องซื้อกลับบ้านกันเป็นแถว นั่นก็คือแคปหมู-น้ำพริกหนุ่ม อาหารพื้นเมื่อของคนภาคเหนือ ที่ถูกใจ ถูกปากของผู้ทุกคนภาค ด้วยความกรอบของแคปหมูและความเผ็ดของน้ำพริกหนุ่ม มันช่างเข้ากันดี
ไปเหนือกี่ทีก็ต้องซื้อทุกทีอย่างแน่นอน
3.ผ้าทอ
ผ้าทอที่มีลวดลายเป็นเอกลักษณ์ของทางภาคเหนือ ทำให้เหล่านักท่องเที่ยวทั้งไทยและเทศต่างตบเท้าเข้ามาซื้อของฝากชิ้นนี้กันอย่าง ไม่ขาดสาย อาจจะเพราะด้วยลวดลายและความเบาสบายของผ้า ทำให้ผ้าทอของภาคเหนือการเป็นของขึ้นชื่อที่ทุกคนจะต้องซื้อกลับฝากคนที่บ้านอยู่เสมอ
4.เมล็ดกาแฟ
ถ้าไม่ซื้อเมล็ดกาแฟจากทางภาคเหนือกลับบ้าน ก็เท่ากับว่าคุณไม่ได้ไปถึงภาคเหนือ
เพราะเมล็ดกาแฟของทางภาคเหนือเมืองไทยนั้น ขึ้นชื่อในเรื่องความหอม ความกลมกล่อม ที่ยากจะหากาแฟจากที่ไหนมาเหมือน ซึ่งชาวต่างชาติหลาย ๆคน ถึงกลับยอมซื้อน้ำหนักกระเป๋าเพิ่ม เพื่อขนเมล็ดกาแฟของไทยกลับกันเลยทีเดียว
ทั้ง 4 ของดีที่เรากล่าวไปเมื่อข้างต้น ล้วนแล้วแต่เป็นของขึ้นชื่อของทางภาคเหนืออย่างแท้จริง และยิ่งเป็นเมล็ดกาแฟด้วยแล้ว บอกได้คำเดียวว่าต้องซื้อ
เพราะภาคเหนือของไทยถือว่าเป็นทำเลทองในการปลูกต้นกาแฟเป็นอย่างมาก
โดยเฉพาะดอยปางขอน จังหวัดเชียงราย ที่มีความสูงเหนือน้ำทะเลถึง 1,280 เมตร
ทำให้ดอยแห่งนี้กลายเป็นพื้นที่ที่ชาวอาข่าได้ปลูกกาแฟสายพันธุ์อาราบิกก้าแท้ 100% ภายใต้ชื่อแบรนด์ว่า ‘อะมา’ ออกมาจำหน่าย
และแน่นอนว่าทั้งรสชาติและกลิ่นของกาแฟอะมานั้น ก็ไม่ทำให้ผิดหวัง ทั้งหอม ทั้งเข้มข้นและนุ่มนวล จนหลาย ๆ ต่างติดใจต้องซื้อติดมือกลับบ้านหรือถึงขนาดสั่งซื้อกาแฟอะมาผ่านทาง
Facebook กันเลยทีเดียว อีกทั้งกาแฟอะมายังเป็นกาแฟออร์แกนิคอีกด้วย