เทรนยุคนี้หนีไม่พ้นเรื่องของสุขภาพ ไม่ว่าจะเพศไหนวัยไหนต่างก็หันมาใส่ใจเรื่องสุขภาพกันมากขึ้น ดูแลตัวเองกันมากขึ้น ทั้งการออกกำลังกาย ทั้งอาหารการกิน ซึ่งกาแฟก็เป็นเครื่องดื่มทางเลือกที่ดีต่อสุขภาพ แต่สิ่งที่น่ากลัวก็คือน้ำตาลกับครีมเทียมที่โดนเติมลงไปนั่นเอง แถมกาแฟบางชนิดยังมีวิปครีม มีส่วนผสมอื่นๆ อีก วันนี้เลยอยากเอาใจสายสุขภาพที่ชอบดื่มกาแฟด้วยการพาไปดูว่ากาแฟแต่ละเมนูที่สั่งๆ กันมีปริมาณแคลอรี่เท่าไหร่บ้าง
Espresso
เป็นกาแฟที่เสิร์ฟเป็นช็อตเล็กๆ มีรสชาติกาแฟเข้มข้นและหนักแน่น ไม่มีส่วนผสมของน้ำตาล ให้แคลอรี่ที่น้อย แค่ 5 แคลอรี่เท่านั้น
Americano
เป็น Espresso ที่มีการเจือจางโดยใส่น้ำร้อนเพิ่มเข้าไป ดื่มง่ายกว่า Espresso สำหรับใครชอบหวานสามารถเติมไซรัปได้ ให้พลังงาน 15 แคลอรี่ต่อแก้วโดยประมาณ
Cappuccino
เป็นกาแฟที่มีส่วนผสมหลักเป็นกาแฟกับนม ท็อปด้วยฟองนมละเอียดและโรยหน้าด้วยผงซินนามอนหรือโกโก้เล็กน้อย
เป็นกาแฟรสกลางๆ ไม่หนักจนเกินไป ให้พลังงานประมาณ 120 แคลอรี่ต่อแก้ว
Latte
เป็นกาแฟผสมนมร้อน ที่มีส่วนผสมของนมในปริมาณสูง ท็อปด้วยฟองนม ให้รสอ่อนๆ ของกาแฟ ดื่มง่าย แต่แคลอรี่ค่อนข้างสูง 190 แคลอรี่ต่อแก้ว
Mocha
เป็นกาแฟที่มีลักษณะคล้ายกับ Latte แต่ Mocha จะมีส่วนผสมของช็อกโกแลตเพิ่มเข้ามา ให้รสชาติที่เข้มข้นแต่ไม่ขมจนเกินไป มีปริมาณแคลอรี่สูงขึ้นถึงแก้วละ 300 แคลอรี่
Caffe Breve
เป็น Espresso และครีมที่ผสมกับนม ในอัตราส่วนครึ่งต่อครึ่ง ท็อปด้วยฟองนม ให้รสชาติหอมมันจากครีมและนม ให้พลังงานประมาณ 105 แคลอรี่ต่อแก้ว
Caramel Macchiato
ซึ่งเป็นการผสมระหว่างนม กาแฟ และคาราเมล เข้าด้วยกัน ทำให้รสชาติหวาน มัน และหอม จากส่วนผสมจึงทำให้กาแฟแก้วนี้มีแคลอรี่สูงถึง 400 แคลอรี่ต่อแก้ว
Flat White
เป็นกาแฟเข้มข้น ผสมกับนมร้อน 2 ส่วน ให้รสชาติที่นุ่มนวล ละมุน ดื่มง่าย คล้ายกับ Latte แต่จะไม่มีฟองนมที่นุ่มฟูเหมือน Latte ให้ปริมาณ 190 แคลอรี่โดยประมาณ
ปริมาณแคลอรี่ของกาแฟแต่ละชนิดอาจปรับเปลี่ยนไปตามส่วนผสมของแต่ละร้าน สำหรับใครที่อยากคุมแคลอรี่แบบจริงจังแนะนำให้ชงกาแฟดื่มเอง จะควบคุมแคลอรี่ได้ดีกว่า เริ่มต้นด้วยการเลือกเมล็ดกาแฟที่มีคุณภาพอย่าง “อะมา” เมล็ดกาแฟที่ให้รสชาติ นุ่มนวล กลมกล่อมเป็นเอกลักษณ์ ปลูกบนยอดเขาที่สูงกว่าระดับน้ำทะเล 1,280 เมตร ไร้การรบกวนจากภายนอก สนใจสั่งซื้อได้ที่ https://www.amaexoticcoffee.com/