ถ้าคุณเป็นคนหนึ่งที่ชื่นชอบการดื่มกาแฟในทุกๆ วัน ชอบค้นหาเมล็ดกาแฟดีๆ มาลองชิมเสมอ และในตอนนี้ก็กำลังเริ่มสนใจที่จะซื้อเครื่องชงกาแฟสักอันเอาไว้ชงกาแฟสดเองที่บ้าน แต่ก็ยังไม่รู้ว่าควรจะเลือกซื้อแบบไหนดี มีหลักการอะไรในการเลือกบ้าง?
และจะคุ้มค่ากับการจ่ายเงินหรือไม่ เอาเป็นว่าไม่ต้องกังวลไปนะคะ เพราะว่าการเลือกซื้อเครื่องชงกาแฟนั้นไม่ได้ยากอย่างที่คิด ถึงแม้ว่าเราจะเป็นมือใหม่ แต่ก็สามารถเลือกซื้อได้แน่นอน ลองไปดูกันเลยว่าการเลือกซื้อนั้นจะต้องดูจากอะไรกันบ้าง!
1.การใช้งาน
เริ่มที่ข้อแรกกันเลย ก่อนที่เราจะตัดสินใจเลือกประเภทหรือรุ่นของเครื่องชงกาแฟเราก็ควรจะถามตัวเองก่อนว่าเรามีจุดประสงค์ในการใช้งานยังไงบ้าง?
ถ้าหากเราต้องการซื้อเครื่องชงกาแฟเพื่อนำมาใช้ในธุรกิจ อย่างการเปิดร้านขายกาแฟแน่นอนว่าเครื่องที่เราต้องซื้อก็ควรจะมีขนาดที่ใหญ่และมีแรงดันเยอะๆ เช่น 19 บาร์ หรือควรจะชงได้ทีละหลายแก้ว เป็นต้นแต่ถ้าจุดประสงค์ของเราคือการชงกาแฟสดดื่มเองที่บ้าน อันนี้เราก็ควรเลือกซื้อเครื่องแบบขนาดเล็ก แรงดันไม่ต้องเยอะมากเน้นการใช้งานง่ายๆ ราคาก็จะได้ไม่สูงตามไปด้วยนั่นเอง
2.ฟังก์ชั่นการทำงาน
ต่อมาสิ่งที่ควรดูก็คือฟังก์ชั่นในการใช้งานของตัวเครื่อง อันนี้ก็จะขึ้นอยู่กับความถนัดและความชอบของเราเลยค่ะว่าเราอยากให้เครื่องชงกาแฟของเราทำอะไรได้บ้าง เช่น มีหัวชงหลายหัว เป็นเครื่องชงแบบ Manual ที่จะต้องตั้งค่าระดับน้ำเอง หรือว่าอยากได้แบบ Auto เหมาะกับมือใหม่ แค่กดปุ่มเดียวก็ทำงานให้เลย แบบนี้ก็จะสะดวกมากขึ้นค่ะ
3.วัสดุของเครื่อง
สำหรับวัสดุของเครื่องชงกาแฟก็เป็นอีกสิ่งที่ไม่ควรมองข้ามนะคะ เพราะว่ามันมีผลต่อราคาและความทนทานของตัวเครื่องถ้าหากเครื่องชงกาแฟทำมาจากวัสดุอย่างสเตนเลสก็จะสามารถทนต่อการกัดกร่อนจากแร่ธาตุในน้ำได้มากกว่าวัสดุอย่างทองแดงนั่นเอง นอกจากนี้ก็ยังมีเรื่องของความหนาบางและการใช้พลาสติกเป็นส่วนประกอบในบางส่วนด้วย ซึ่งราคาก็แปรผันตามวัสดุเหล่านี้เนี่ยล่ะค่ะ
4.แบรนด์หรือประเทศที่ผลิต
ถ้าให้บอกแบรนด์ที่เป็นที่นิยม ก็มักจะหนีไม่พ้นพวกแบรนด์ดังๆ หรือเครื่องชงที่ผลิตในโซนประเทศยุโรปอย่างอิตาลี ฝรั่งเศส สเปน อเมริกา เยอรมัน และฮอลแลนด์ เพราะประเทศเหล่านี้จะมีมาตรฐานในการผลิตที่สูง สินค้ามีคุณภาพดีซึ่งแบรนด์ที่มีชื่อเสียงหลายๆ แบรนด์ก็มักจะมีราคาที่สูงตามไปด้วยเช่นกัน
5.บริการหลังการขาย
เหมือนกับการซื้อสินค้าอื่นๆ ทั่วไปนั่นแหละค่ะ การบริการหลังการขายถือเป็นสิ่งที่ต้องให้ความสำคัญมากๆโดยเราควรเลือกซื้อจากตัวแทนจำหน่ายที่เชื่อถือได้ สินค้ามีการรับประกัน มีช่างซ่อม และมีอะไหล่สำรองเพราะเครื่องชงบางอันที่ผลิตจากต่างประเทศก็อาจจะหาอะไหล่ต่างๆ ได้ยากและใช้เวลาซ่อมนานดังนั้นหากร้านไหนมีช่างซ่อมคอยให้คำแนะนำหรือมีบริการไปซ่อมที่บ้านก็จะยิ่งดีเลยล่ะ นี่ก็เป็นเทคนิคเบื้องต้นที่จะช่วยให้ทุกคนสามารถเลือกซื้อเครื่องชงกาแฟที่ดีและเหมาะสมกับการใช้งานของแต่ละคนได้แล้วนะคะ และเมื่อทุกคนมีเครื่องชงกาแฟพร้อมแล้วก็ต้องเลือกใช้เมล็ดกาแฟพันธุ์แท้ที่มีคุณภาพดีเพื่อช่วยเสริมให้กาแฟที่เราชงออกมารสชาติอร่อยโดนใจกันด้วยนะ!